ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 4.38 จุด ยังไม่พ้น 1,500 ปัจจัยในประเทศถ่วง รอลุ้นผลประชุม ECB-BOJ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 6, 2016 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,496.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด (+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 50,701.80 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยระหว่างวันดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,502.53 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,488.99 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 700 หลักทรัพย์ ลดลง 468 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 342 หลักทรัพย์

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงแรง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ปรับตัวลง

การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในวันนี้เป็นการฟื้นตัวกลับมาหลังจากวานนี้ดัชนีปรับตัวลงแรงจากกระแสข่าวลือ แต่วันนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งส่วนหนึ่งมีปัจจัยหนุนมาจากความคาดหวังการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในครั้งนี้ที่ตลาดคาดว่าจะเห็นการนำมาตรการใหม่ ๆ เข้ามาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังจากที่ใช้มาตรการดอกเบี้ยติดลบ และยังไม่เห็นผลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

ด้าน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯสามารถดีดตัวขึ้นได้บ้างหลังจากที่ร่วงแรงเมื่อวานนี้ แต่วอลุ่มเทรดยังเบาบาง ซึ่งคงเป็นผลจากความกังวลปัจจัยในประเทศ และยังต้องติดตามข่าวอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ ต่างก็รอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย.นี้

ดังนั้น จึงมองว่าแม้ดัชนีฯจะดีดตัวขึ้นได้บ้างแต่ upside ยังจำกัด คาดว่าการที่ดัชนีฯจะวิ่งขึ้นไปเกินระดับ 1,550 จุด คงเป็นไปได้ยากแล้วในช่วงนี้ และหากดัชนีฯไม่สามารถยืนเหนือ 1,500 จุดก็ควรชะลอการลงทุนบ้าง แต่ถ้าขึ้นเหนือระดับ 1,500 จุด ก็ยังน่าสนใจที่จะเล่นเก็งกำไร

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ไม่ได้ดูแย่ ส่วนใหญ่อิงในแดนบวกมากกว่าลบ แม้แต่ตลาดในยุโรปส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ซึ่งในเดือนนี้ (ก.ย.)มีการประชุมหลายแห่งที่จะต้องติดตาม นอกเหนือจากการประชุม ECB ก็ยังมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมไปถึงบ้านเราก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แต่จะต้องรอดูสรุปข้อมูลการซื้อขายวันว่าแรงซื้อมาจากนักลงทุนในประเทศหรือต่างชาติ ซึ่งหากต่างชาติยังเข้ามาซื้อก็จะช่วยสร้างความมั่นใจใหักับนักลงทุนต่างชาติรายอื่นกลับเข้ามาซื้อได้ในวันพรุ่งนี้ หลังจากไม่แน่ใจภาวะตลาดหุ้นไทยที่เมื่อวานนี้ร่วงลงแรง

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามยังคงเป็นเรื่องการประชุม BOJ ที่มีกำหนดการประชุมใกล้เคียงกับการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุด

ด้านน.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้อาจจะซึม พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,206.75 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท ลดลง 0.10 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,983.33 ล้านบาท ปิดที่ 333.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,927.47 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,912.49 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,718.54 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ