โบรกเชียร์"ซื้อ" BKD ลุ้นเป็นตัวเต็งงานปรับปรุงโครงการปาร์คนายเลิศ"ของ BDMS,แนวโน้มกำไร H2/59 ฟื้นตัวแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 11, 2016 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์ "ซื้อ"หุ้นบมจ.บางกอก เดค-คอน (BKD) ลุ้นเป็นตัวเต็งในงานปรับปรุงโครงการปาร์คนายเลิศ ภายหลังจากที่บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีแผนเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว และจะลงทุนปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic ด้วยงบประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่ง BKD เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาไม่กี่รายที่สามารถรับงานขนาดใหญ่ในระดับนี้ แต่หากไม่ได้งานก็มีความเสี่ยงด้านล่างของผลประกอบการจำกัดเพราะ BKD มีปริมาณงานในมือ (Backlog) รอรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งแรกปี 60 แล้ว

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีโอกาสที่กำไรจะฟื้นตัวค่อนข้างแรง เหตุมีงานในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท คาดทยอยรับรู้ในไตรมาส 3 และ 4 ราว 400 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท หนุนรายได้ในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 โต 32% และ 15% ตามลำดับ

ราคาหุ้น BKD ปิดตลาดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 3.14 บาท ลดลง 0.18 บาท (-5.42%)

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ                   ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                       ซื้อ                           4.20
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)     ซื้อ                           4.16
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                           4.00

นายศุภชัย วัฒนวิเทศกุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ BKD ในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีแนวโน้มเติบโตดี โดยคาดว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวแรง 230% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากมีงานในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 3 จำนวน 400 ล้านบาท และไตรมาส 4 จำนวน 300 ล้านบาทตามลำดับ ทำให้คาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 จะโตได้ 32% และ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับงานใหม่ ๆ ที่จะเป็นส่วนช่วยเสริมการเติบโตอีกด้วย

นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลัง 59 มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากงานที่ทำในครึ่งปีหลังจะมีกำไรสูงกว่า เนื่องจากงานที่ให้กำไรน้อยหมดลงตั้งแต่ครึ่งปีแรก และคาดในช่วงไตรมาส 3/59 จะมีการกลับรายการทางบัญชีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 38 ล้านบาทเข้ามาด้วย

ทั้งนี้ บริษัทคาดจะได้รับงานมูลค่า 1.5 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้งานในมือทำสิถิติสูงสุดใหม่ภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ซึ่งหากบริษัทได้รับงานดังกล่าวจริงจะทำให้งานในมือของ BKD แตะระดับ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดใหม่ทันที หนุนให้รายได้ปีหน้าเพิ่มขึ้น 20% มาที่ระดับ 1.7 พันล้านบาท

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BKD เป็นตัวเต็งในงานปรับปรุงสินทรัพย์ของโครงการปาร์คนายเลิศ ที่กลุ่ม BDMS จะเข้าซื้อมาด้วยวงเงิน 1.08 หมื่นล้านบาท และจะใช้เงินอีกราว 2 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic โดยฝ่ายวิจัยประเมินเบื้องต้นว่า BKD เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาไม่กี่รายที่จะสามารถรับงานขนาดใหญ่ในระดับนี้ได้

ขณะที่โครงการปาร์คนายเลิศ มีอาคารพร้อมอยู่แล้ว จึงเหลือเพียงงานปรับปรุงส่วนสำนักงานของโรงแรมเดิมให้เป็นส่วนรับผู้ป่วยนอก (OPD) ตามแผนงาน โรงแรมจะปิดดำเนินงานสิ้นปีนี้ และ BDMS จะเปิดดำเนินงานกลางปี 60 ดังนั้น ฝ่ายวิจัยคาดว่า BDMS จะต้องสรุปผู้รับเหมาให้ได้โดยเร็วที่สุด และหาก BKD ได้รับงานก็คาดว่าจะเห็นการรับรู้รายได้จำนวนมากในช่วงครึ่งแรกของปี 60 อย่างไรก็ดี แม้ BKD จะไม่ได้งานนี้ ก็มองว่าความเสี่ยงด้านล่างของผลประกอบการจะจำกัดเพราะ BKD มีปริมาณงานในมือรองรับรายได้ในช่วงครึ่งแรกปี 60 ให้ไม่น้อยกว่าครึ่งแรกของปี 59 เรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งคาดผลการดำเนินงานในปีหน้า BKD จะมีกำไรเติบโตสูงถึง 24% จากปีนี้ โดยมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น เพราะภาพอุตสาหกรรมงานตกแต่งภายในดูสดใสมากขึ้น จากงานขนาดใหญ่อย่างงานปรับปรุงโครงการปาร์คนายเลิศ ของ BDMS ที่จะเข้ามาในตลาด

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา BKD เซ็นสัญญางานโครงการขนาดเล็กมาตลอดปี ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดจะได้เห็นการเซ็นงานขนาดใหญ่ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ หนุนให้มีงานในมือเพียงพอสำหรับปีหน้าทั้งปี ปัจจุบัน BKD มุ่งหวังทั้งงานภาครัฐและเอกชน (High potential project) อยู่หลายโครงการ ซึ่งตามแผนงานระยะยาวของบริษัท คาดจะมีงานโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 1 แห่ง มูลค่าราว 500-700 ล้านบาท และงานโรงแรมในกรุงเทพฯอีก 2 แห่ง มูลค่าราว 300-400 ล้านบาท ต่อ 1 โครงการ ดังนั้นมองว่าด้วยปริมาณงานในตลาดที่มีเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดจะมีความมั่นใจต่อการเติบโตในปีหน้า

อย่างไรก็ตามคาดความเสี่ยงของผลประกอบการปีหน้ามีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบริษัทมีมูลค่างานในมือทั้งหมดราว 1.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่จะรับรู้รายได้ในปีหน้าราว 700 ล้านบาท ซึ่งไม่น้อยกว่ารายได้ที่มีในช่วงครึ่งแรกปีนี้

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของงานในมือที่จะรับรู้ในปีหน้า มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะงานที่เกิดขึ้นในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นไม่ดีนัก หลังจากเกิดปัญหาความล่าช้าทางเทคนิค ดังนั้น หาก BKD ได้รับงานเพิ่มขึ้นในช่วงต่อจากนี้ก็คาดว่า BKD จะสามารถแสดงผลประกอบการที่เติบโตขึ้นในปีหน้าได้ อย่างน่าประทับใจ

ด้านบทวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่ากำไรของ BKD ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้วในครึ่งแรกปีนี้ ขณะที่ปริมาณงานในมือที่มีอยู่ในปัจจุบันระดับ 1.1 พันล้านบาท รอเซ็นสัญญา 300 ล้านบาท และรอปิดงานใหญ่อีก 700 ล้านบาทจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้รายได้มากขึ้น นอกจากนี้การที่คณะกรรมการบริษัทเพิ่งอนุมัติให้ขายที่ดินย่านกรุงเทพกรีฑา คาดว่าจะมีกำไรหลังภาษี 340 ล้านบาทหรือ 0.3 บาท/หุ้นในช่วงไตรมาส 2/60 ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ