ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,376.35 จุด ลดลง 29.83 จุด (-2.12%) มูลค่าการซื้อขาย 31,810.91 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง และเมื่อใกล้ปิดเทรดภาคเช้าเมื่อเวลา 12.29 น.ดัชนีฯร่วงไป 30.13 จุด (-2.14%) มาอยู่ที่ 1,376.05 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,397.24 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,375.26 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ จากปัจจัยในประเทศส่วนหนึ่ง และในต่างประเทศที่ยังต้องจับตาดูเป็นพิเศษ
ขณะที่ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อตลาดฯ คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกมาเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำเดือนก.ย.59 โดยกรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป แต่เสียงส่วนใหญ่ดังกล่าวค่อนข้างฉิวเฉียด จึงเป็นที่น่ากังวลว่าในการประชุมรอบถัดไปเสียงของกรรมการส่วนใหญ่อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน ขณะที่ทาง บล.ทรีนิตี้ ประเมินการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดน่าจะมีการปรับขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ มากกว่าจะเป็นในเดือนพ.ย.59
นอกจากนี้ ตัวเลขการส่งออกของจีนงวดเดือนก.ย.ติดลบ 10% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3% จึงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ และยังเป็นปัจจัยต่อค่าเงินหยวนปรับตัวอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,741.61 ล้านบาท ปิดที่ 327.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,658.42 ล้านบาท ปิดที่ 355.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,283.48 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,222.02 ล้านบาท ปิดที่ 5.75 บาท ลดลง 0.40 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,113.64 ล้านบาท ปิดที่ 15.80 บาท ลดลง 0.40 บาท