GBS มองตลาดหุ้นไทยกังวลบาทอ่อนกดดัน Fund Flow ไหลออก ต่างชาติพลิกขาย,แต่งบฯ Q3/59 ยังโตพยุง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 19, 2016 11:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะได้ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. รวมถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีแนวโน้มออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดความต่อเนื่องในช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และภายในเดือนตุลาคม กระทรวงการคลังเตรียมยื่นไฟลิ่งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตของไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)

ทั้งนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงมีความกังวลจากค่าเงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow ไหลออก นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิในเดือนตุลาคม ประกอบกับนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังกล่าวเตือนถึงอันตรายว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำสามารถนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและยาวนาน

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ทยอยแจ้งผลการดำเนินงานในช่วง Q3/2559 ภายใน 21 ต.ค. คาดกำไรของธนาคารส่วนใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสที่แล้วจากการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง , วันที่ 20 ต.ค. (ช่วงเช้าตามเวลาไทย) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book)

รวมถึงกำหนดดีเบตคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 3 จับตาว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันทรัมป์จะดึงคะแนนเสียงเพิ่มได้หรือไม่ จากผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ยังมีคะแนนนำที่ 48% ต่อ 37% และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุมซึ่งมีประเด็นจับตาว่าจะขยายวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 60 หรือไม่

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ถูกแรงกดดันจากแรงขายจากต่างชาติที่เป็นยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ราว 7.4 พันล้านบาท รวมถึงความกังวลว่าเฟด อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อเก็งกำไรงบไตรมาส 3/2559 จะช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีอ่อนตัวลงแรง

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนโดยมีกรอบเคลื่อนตัวที่ 1,460–1,490 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ หุ้นกลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 3/2559 จะเติบโตขึ้น แนะนำ KCE, CPALL, SPALI, ANAN, BEAUTY, GFPT, FSMART, TPCH, WICE และ ACAP รวมถึงกลุ่มส่งออก (อาหารและอิเล็กทรอนิกส์) ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า และ BANPU ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 4 ปี ล่าสุด 90.9 ดอลลาร์/ตัน

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบเป็นลักษณะของการพักตัวหลังราคาปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า โดยราคายังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หลังโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า เฟดมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นสู่ 75% จากเดิมที่ 65% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

ขณะที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้ออกมาเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและยาวนานและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินสวนทางกับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวว่าเฟดอาจต้องผลักดันเศรษฐกิจด้วยการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ ส่งผลให้ความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาพักตัวออกด้านข้างหลังปรับลงแรงและส่งผลให้เส้น 5 วันแกว่งตัวเป็นเส้นนอนเป็นสัญญาณบวกต่อการพักฐานหลังราคาลงมาจบรูปแบบลง ROUNDING TOP การเริ่มวกกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น 5 วัน ขณะที่ค่าสัญญาณ RSI มีภาวะขายมากและเริ่มปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวก เพิ่มแรงหนุนต่อราคาให้มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยมีแนวรับ 1,240 -1,235 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275 -1,280 เหรียญต่อทรอยออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ