KTBST มอง SET ยังผันผวนจากปัจจัยเลือกตั้งสหรัฐฯกดดัน ให้กรอบ 1,488-1,500 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 4, 2016 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า ยังมีความผันผวน ปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯยังกดดัน นักลงทุนรอผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 8 พ.ย.เป็นตัวแปรสำคัญของตลาด เพราะการตรวจสอบ email ของนางฮิลลาของทาง FBI จึงทำให้ช่วงห่างของคะแนนระหว่างนางฮิลลารี่กับนายทรัมป์นั้นยังไม่ขาด

ผลสำรวจบางแห่งถึงกับให้นายทรัมป์มีคำแนนนำด้วย เริ่มคิดถึงผลเลือกตั้งครั้งนี้ เทียบกับตอนโหวต BRExit ว่าจะเป็นลบต่อตลาดแต่ panic หรือไม่คงตอบยาก หากนายทรัมป์เกิดชนะการเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ จึงเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนระดับสถาบัน ต้องสนใจ และปรับพอร์ตรอรับหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง นี่คือปัจจัยเสี่ยงที่ต้องมาลงเรือลำเดียวกับสหรัฐฯ

ค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนลง ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯขยับขึ้น และราคาทองคำขึ้น แม้ผลบางส่วนมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ แต่เป็นสัญญาณบอกว่านักลงทุนกังวลต่อผลเลือกตั้งสหรัฐฯ จึงประมาทไม่ได้ สำหรับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะออกในคืนนี้ เป็นตัวแปรหนึ่งที่จะทำให้การซื้อขายชะลอลง (ผลสำรวจ Bloomberg คาดตัวเลข Non-Farm Payroll +173k ; เดือนก่อน +156k)

ขณะที่เรื่องศาลอังกฤษสั่งให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการผ่านสภาฯก่อนในเรื่องการเดินหน้า BRExit ในเดือน มี.ค.60 ในเรื่องนี้ช่วงสั้นๆ จะเป็นบวก (Bloomberg BREXIT Equity Index +1.3% ในวันทีผ่านมา) แต่เหมือนการซื้อเวลา ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาของความคลุมเครือถูกยืดออกไป ส่วนราคาน้ำมัน ยังไม่เปลี่ยนทิศทาง คือ trend น่าจะวิ่งเข้าใกล้ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถ้าผู้ผลิตน้ำมันยังตกลงเรื่องจำนวนการผลิตที่จะลดลงไม่ได้ และมีวิเคราะห์กันมาแล้วว่า ประเทศรัสเซียที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการประชุมและคาดหมายว่าจะลดกำลังการผลิตมากที่สุด อาจไม่ลดกำลังการผลิตหรือลดน้อยมาก

สำหรับปัจจัยในประเทศ ที่เป็นปัจจัยบวกคือการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการใช้จ่ายของรัฐฯ ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นที่เป็น Domestic Play ทั้ง รับเหมา หุ้นมีฐานรายได้ในเขตภูมิภาค และหุ้น ICT ที่รับวางระบบ เป็นต้น ส่วนการเก็งงบไตรมาส 3 นั้น มองว่านักลงทุนให้ความสนใจต่อเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยผลประกอบการไตรมาส 3 (ณ วันที่ 3 พ.ย.) กำไรตลาดอยู่ที่ 8.3 หมื่นล้านบาท

"การเล่นหุ้นช่วงนี้ยังยากเพราะมีความผันผวนสูงต้องเก็งว่าคนจะเล่นกลุ่มไหนหากเป็นนักลงทุนที่ลงยาวจะยาก ดังนั้น จึงควรเน้นหุ้น Domestic และหุ้นที่เก็งงบไตรมาส 3 ไว้ก่อน ส่วนหุ้นที่อิงรายได้ส่งออกเรื่องเลือกตั้งสหรัฐฯ มีผลมาก ยกเว้นกลุ่มอาหารแช่แข็งที่สหรัฐฯต้องนำเข้าอยู่แล้ว หุ้นที่น่าสนใจวันนี้ STEC,CFRESH,WORK มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,488-1,500 จุด"นายมงคลกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ