หุ้น JAS บวก 0.52% มาอยู่ที่ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 876.03 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.10 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.80 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.55 บาท
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตอบข้อสักถามกรณีราคาหุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า การตรวจสอบราคาหุ้นของ ตลท.นั้นไม่ได้เจาะจงบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โดยจะทำการตรวจสอบราคาหุ้นทุกตัวที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างผิดปกติ และจะทำการเสนอข้อมูลเป็นรายกรณีต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบในขั้นตอนต่อไป
"ตลาดเรามีการตรวจสอบราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆ ตัวหุ้นอยู่แล้ว เราก็จะทำการนำเสนอ ให้กับทาง ก.ล.ต. จากนั้น ก.ล.ต.จะเป็นผู้ตรวจสอบ และจะเปิดเผยว่าการกระทำนั้น ผิดหรือถูก ซึ่งการเสนอข้อมูลให้ ก.ล.ต.ก็มีหลายกรณี และก็ไม่ได้หมายความว่าผิดหรือถูก"นางเกศรา กล่าว
ขณะที่นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร ก.ล.ต. กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบความผิดปกติการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั้น ทาง ก.ล.ต.จะมีการตรวจสอบจากเอกสารที่ ตลท.ส่งมาให้ แต่ระหว่างการตรวจสอบคงไม่สามารถเปิดเผยเป็นรายตัวได้ว่าตัวใดมีความผิดหรือไม่มีความผิด แต่อย่างไรก็ตาม หากกรณีใดตรวจสอบพบแล้วผิดจริง ทาง ก.ล.ต.ก็จะดำเนินตามกระบวนการและแจ้งให้สาธารณชนรับทราบ
ด้านแหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า เท่าที่ติดตามมาพบว่าหุ้น JAS มีเรื่องราวซับซ้อนค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้าประมูลคลื่น 900 MHz ซึ่งหากได้มาก็จะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีนี้สำหรับการลงทุนและการขยายโครงข่ายเพื่อรองรับการให้บริการ แต่เมื่อไม่ได้คลื่น 900 MHz หลายๆ คนมองว่าคงต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการทิ้งใบอนุญาต และอาจจะมีผลขาดทุนด้วย แต่อยู่ๆ ก็ประกาศซื้อหุ้นคืนที่ 5 บาท ทำให้ราคาก็วิ่งขึ้นมาโดยตลอด จนระยะหนึ่งก็นิ่งๆ ไป จากนั้นเมื่อนายพิชญ์ โพธารามิก ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ราคาก็วิ่งขึ้นมาอีกรอบ
"ทุกคนก็พยายามหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งบางรายก็คิดไปว่าอาจจะมีการปันผลพิเศษระหว่างการหรือเปล่า หากไตรมาส 3/59 ผลประกอบการออกมาเป็นบวกและเอากำไรสะสมทั้งหมดมาปันผล แต่หากดูราคาที่ขึ้นมาเป็นหลายเท่า การปันผลแค่ 10% ก็มองว่าไม่คุ้ม ก็ยังคงติดตามหาเหตุผลอยู่ เช่นเดียวกับหุ้น ESSO"แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนโบรกเกอร์อีกรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การทำเทนเดอร์ฯ หุ้น JAS ทำให้สภาพคล่องของหุ้นในตลาดหายไป เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น และการที่ราคาจะวิ่งขึ้นมาโดยไม่สนใจพื้นฐานก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง และยังไม่มีการชี้แจงจากนายพิชญ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากเปิดเผยแล้วมีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่สมเหตุสมผลก็คงเป็นเรื่องที่นักลงทุนรับได้
และ นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ข้อมูลเกี่ยวกับ JAS เป็นไปตามข่าวที่ออกมา และหลายๆคนก็รับรู้อยู่แล้ว ก็เป็นเหมือนอยู่ในวังวนแบบนี้ ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่า JAS จะทำอะไรต่อ แต่ในมุมมองเชื่อว่าคงจะไม่จบอยู่แค่นี้ น่าจะมีภาค 2 ภาค 3 ตามมาอยู่แล้ว