TTA บวก 4.86% โบรกฯเชียร์"ซื้อ"ค่าระวาง BDI ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุนงบฯ Q4/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2016 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TTA ราคาวิ่งขึ้น 4.86% มาอยู่ที่ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 359.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.04 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.80 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.35 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) โดยราคาเหมาะสมยังคงอิง P/BV 1.0 เท่า ที่ 12.60 บาท/หุ้น จากทิศทางพัฒนาการต่าง ๆ กำลังเดินไปในเชิงบวก ขณะเดียวกันในภาพของการเก็งกำไรไปกับดัชนีค่าระวางเรือ BDI นั้น TTA ก็ดูจะมีความเสี่ยงต่ำกว่า จากการที่สถานะมีกำไรได้เร็วกว่า และมีเงินสดในมือพร้อมลงทุนสูงถึง 6.79 บาท/หุ้น

แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ด้วยระดับ BDI ที่ฟื้นต่อเนื่อง จึงมองว่าจะทำให้กลุ่มธุรกิจเรือเทกองเข้าใกล้จุดคุ้มทุนได้ ราว ๆ ที่ BDI 1,200 จุด ซึ่งจะเป็นจุดที่ทำให้ทั้ง 3 ธุรกิจหลักมีกำไรพร้อมกัน ดังนั้นทิศทางผลกำไรคาดจะยังคงขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และงวดปีก่อน

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 TTA พลิกมารายงานกำไรสุทธิได้ตามที่ประเมินไว้ โดยทำกำไรสุทธิได้ 7 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 31 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผลกำไรยังอ่อนแอกว่าปีก่อน 96% จากงวดปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรที่สูง จากการอยู่ในสิ่งแวดล้อมการทำธุรกิจที่ดีกว่าที่ BDI เฉลี่ย 974 จุด เทียบกับไตรมาส 3/59 นี้ที่ 736 จุด ส่วนในภาพการดำเนินงานปกติ ไตรมาส 3/59 เมื่อหักขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 41 ล้านบาท และการสำรองด้อยค่าจากสินทรัพย์ 72 ล้านบาท ออกไป TTA รายงานกำไรปกติได้ที่ 119 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 5 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 และกำไร 294 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 ด้วยเหตุผลเดียวกัน โดยกลุ่มธุรกิจ 2 ใน 3 ทำได้งานดี

ธุรกิจเดินเรือ ยังให้ผลขาดทุน 223 ล้านบาทมายัง TTA เนื่องจากระดับค่าระวางที่ทำได้ 5,473 เหรียญ/ลำ/วัน ยังคงต่ำกว่าจุดคุ้มทุนที่ 7,145 เหรียญ/ลำ/วัน หรือ 23% แต่ก็มีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากค่าระวางนี้สามารถฟื้นตัวต่อเนื่อง 8% เมื่อเทียบต่อไตรมาส

ธุรกิจพลังงาน Mermaid ส่งกำไรเข้ามาให้ 152 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่ทว่าลดลงจากปีก่อน 55% เนื่องจาก ส่วนแบ่งกำไรจากเรือขุดน้ำมันของ AOD ลดลง 73% เนื่องจากลูกค้าได้ขอเจรจาลดค่าจ้างลงมา ภายหลังราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงมาต่ำ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ดี 32% เนื่องจากงาน Cable laying ซึ่งให้มาร์จิ้นต่ำทยอยหมดไป

ธุรกิจสาธารณูปโภค UMS ส่งขาดทุนเข้ามาเพียง 7 ล้านบาท ลดลงต่อเนื่องจาก 10 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 เนื่องจากผลของการปรับโครงสร้างต้นทุนก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายถ่านเพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาสก่อน เป็น 47,000 ตัน ส่วน PMTA ก็ส่งผลกำไรเข้ามา 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อน และ 61% จากงวดปีก่อน ผลักดันจากต้นทุนที่เกี่ยวเนื่องด้านปิโตรเคมี (ตามราคาน้ำมันดิบ) ลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทำได้สูงถึง 29.9% จาก 25.2% ในไตรมาส 2/59 และ 23.1% ในไตรมาส 3/58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ