ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,473.86 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 49,361.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,475.90 จุด ส่วนดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,465.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 456 หลักทรัพย์ ลดลง 667 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 411 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งในแดนบวก-ลบ และวอลุ่มเทรดก็บางด้วย ซึ่งตลาดซึมในช่วงนี้มาจาก Fund Flow ที่ยังไหลออกอยู่ ดังนั้นนักลงทุนจึงเลือกตัวเล่นมากกว่า โดยเลือกเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ยังเผชิญแรงกดดันจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายสุทธิอยู่
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยที่น่าจะติดตามจะอยู่ที่การประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งทางฝ่ายวิจัยประเมินว่า งวดนี้น่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงมาอยู่บริเวณ 32.5-33 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตน้ำมันอยู่แถว 33.24 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งหากผลที่ประชุมออกมาเป็นอย่างคาดการณ์ไว้ ผลกระทบต่อตลาดฯก็อาจจะไม่มาก แต่ถ้าสามารถทำได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นบวกต่อราคาน้ำมัน
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้น้ำหนักในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.เกือบ 100% แล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,098.17 ล้านบาท ปิดที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,913.75 ล้านบาท ปิดที่ 464.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,882.81 ล้านบาท ปิดที่ 344.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
BPP มูลค่าการซื้อขาย 1,701.64 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,509.98 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง