JUBILE ตั้งเป้าปี 60 รายได้โต 15% เน้นดันยอดขายสาขาเดิมโต 10-15% จากปีนี้ทรงตัว,ศึกษาขยายสาขาตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 2, 2016 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส. อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBULE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 15% จากปีนี้ที่ยอดขายทรงตัว โดยปัจจัยที่สนับสนุนจะมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บริษัทเน้นการสร้างยอดขายในสาขาเดิมมากขึ้น โดยในบางสาขาจะมีการปรับปรุงเพื่อขยายพื้นที่ ประกอบกับ บริษัทยังมีการปรับปรุงคุณภาพสินค้าและการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดตลอดทั้งปี โดยตั้งงบการตลาด 5-7% ของรายได้รวม และคาดว่า SSSG ในปี 60 จะมีการเติบโตได้ 10-15%

นอกจากนี้ บริษัทยังแผนมีการขยายสาขาของร้าน Jubilee ในปี 60 เพี่มเติม ซึ่งวางแผนขยายสาขาใหม่ 3-5 สาขา ในต่างจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา จันทบุรี เพชรบุรี และจังหวัดอื่นๆ จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 125 สาขา รวมทั้งมีแผนขยายสาขาร้าน FOREVERMARK เพิ่มอีก 3-4 สาขาในกรุงเทพฯ จากปัจจุบันมี 3 สาขาที่สยามพารากอน ชิดลม และหัวหิน โดยจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยต่อสาขาอยู่ที่ 7-10 ล้านบาท/สาขา

น.ส.อัญรัตน์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดสาขาในต่างประเทศ โดยจะเน้นไปที่ประเทศในโซนเอเชียก่อน และเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อและมีศักยภาพในการเติบโต คาดว่าในปี 60 ยังจะไม่มีความแน่ชัดในการขยายสาขาไปต่างประเทศ แต่ปัจจุบันก็มีประเทศที่บริษัทมองว่ามีโอกาสเข้าไปลงทุน คือ ประเทศสิงคโปร์ เพราะเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายหลังปี 60

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.49 พันล้านบาท หลังจาก 9 เดือนบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท โดยในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้บริษัทออกแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดขาย การออกบูธในห้างสรรพสินค้า และแคมเปญต้อนรับผลิตภัณฑ์ใหม่ “Special Holiday Deals" ที่เป็นสินค้าดีไซน์ใหม่ต้อนรับช่วงเทศกาลคริสมาส ปีใหม่ ตรุษจีน และวาเลนไทน์ เป็นแคมเปญต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/60 เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย

ส่วนไตรมาส 4/59 น.ส.อัญรัตน์ มองว่าแนวโน้มของการจับจ่ายในไตรมาส 4/59 ในช่วงหลังกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเริ่มมีการชะลอตัวลงไปจากปัจจัยในประเทศ อีกทั้งผู้ประกอบการต่างๆต้องงดการจัดกิจกรรมทางการตลาดออกไปทำให้ภาพรวมของตลาดซึมลงไปจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตดีตามฤดุกาลของธุรกิจ แต่หลังจากผ่านช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไป เริ่มกลับมาจัดกิจกรรมการตลาดกันบ้าง ทำให้ภาพรวมของตลาดฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่การตัดสินใจซื้ออาจจะยังชะลออยู่ ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตยอดขายของบริษัทในปีนี้จะไม่เติบโต

ขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 10-11% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 8.79% ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนการผลิตและการบริหารจัดการต่างๆ และต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบการผลิตเพชรที่ปัจจุบันบริษัทมีการล็อกอัตราการแลกเปลี่ยนไว้ที่ 75% ในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนและบริหารความสามารถในการทำกำไรได้ในระดับที่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ