(เพิ่มเติม) NUSA ตั้งเป้าปี 60 ยอดขาย 5.5 พันลบ.เน้นรุกธุรกิจอสังหาฯเพื่อสุขภาพ-ท่องเที่ยว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 15, 2016 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) ตั้งเป้าทิศทางธุรกิจปี 60 เน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควบคู่ศูนย์สุขภาพครบวงจร 70% เพื่อตอบสนองเทรนด์การท่องเที่ยว และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และอีก 30% เป็นการพัฒนาที่พักอาศัยและอื่นๆ โดยตั้งเป้ายอดขาย 5.5 พันล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 3 พันล้านบาท

ทั้งนี้ จากผลสำรวจและวิจัยของ Global Wellness Institute ในสหรัฐฯ ชี้ว่ารีสอร์ทเพื่อสุขภาพ (Wellness resort) จะเติบโตขึ้นถึง 50% ของตลาดโลกภายในปี 60 ซึ่งบริษัทมองเห็นว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีการเติบโตสูง และมีช่องว่างในตลาดที่ยังไม่มีใครลงทุนในประเทศไทย ขณะที่บริษัทยังมีแลนด์แบงก์ที่รอการพัฒนาอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้นำแนวคิด The Greatest Wealth is Health เพราะสุขภาพดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง รุกตลาดท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ พัฒนาโครงการอสังหาฯและศูนย์สุขภาพครบวงจรอีก 10 โครงการ หลังจากเดือน พ.ย.เปิดตัว "ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่"ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NUSA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 60 อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ายอดขายจะทำได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นโมเดลธุรกิจในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กับศูนย์สุขภาพครบวงจร ที่ประกอบไปด้วยบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม รีสอร์ท และศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม เพื่อตอบสนองเทรนด์ของโลกและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนที่เริ่มหันมาสนใจมากขึ้น

โดยบริษัทได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 60 ทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาไว้ทั้งหมดแล้ว โดยเป็นโครงการที่อยู่ในกรุงเทพ 1 โครงการในย่านพระราม 2 คือ โครงการ NUSA RAMA 2 เฟส 2 , พัทยา 2 โครงการ คือ โครงการ Siam Legend Resort และโครงการ Legend Siam ,

เขาใหญ่ 2 โครงการ คือ โครงการ Khaoyai Colmar Condominium และโครงการ Khao Yai Hotel, เชียงใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการ NUSA Chiangmai Hotel และโครงการ NUSA Chiangmai Condominium และ ภูเก็ต 3 โครงการ คือ โครงการ Pakok Project, โครงการ Raya Hotel Project และโครงการ Raya Condominium Project

สำหรับโครงการที่จะเปิดใหม่ในปี 60 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการทยอยยื่นขอใบอนุญาตวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า ซึ่งโครงการใหม่จะอยู่ภายใต้คอนเซปต์ควบคู่ไปกับสุขภาพตามโมเดลธุรกิจใหม่ของบริษัท อีกทั้งบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และไม่ค่อยติดขัดปัญหาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีความเสี่ยงน้อยในเรื่องการรับรู้รายได้ในอนาคต

ขณะที่แนวโน้มรายได้ในปี 60 บริษัทตั้งเป้าที่ 3 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ามีรายได้ 1 พันล้านบาท โดยบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการโอนโครงการ NUSA Sriracha ที่มีการทยอยโอนมากขึ้นและเป็น Backlog ส่วนใหญ่ โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog รวมทั้งสิ้นกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 61

นอกจากนี้บริษัทจะเน้นการระบายสต็อกในปีหน้าอย่างจริงจัง หลังจากปัจจุบันมีมูลค่าสต็อกของโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขายอยู่เป็นมูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเร่งระบายสต็อกให้สดลงในปีหน้าจะช่วยให้บริษัทมีรายได้กลับเข้ามามากขึ้น

นายวิษณุ กล่าวถึงผลการดำเนินในปีนี้ คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท และมีรายได้ 1 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30% เป็นผลมาจากปัญหากำลังซื้อตลาดกลาง-ล่างชะลอตัวลง และเนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง ทำให้การขอสินเชื่อของธนาคารเกิดปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น และมีเกณฑ์การพิจารณาที่เข้มงวดขึ้น ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ชะลอไปด้วย

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศในช่วงไตรมาส 4/59 ทำให้กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการขายต้องชะลอออกไป ทำให้บริษัทต้องเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ออกไปเป็นปีหน้าจำนวน 4 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ