ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,522.40 จุด ลดลง 0.11 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 36,233.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,527.03 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,520.89 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 434 หลักทรัพย์ ลดลง 749 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 431 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบอย่างไร้ทิศทางชัดเจน และวอลุ่มเทรดบาง เนื่องจากคาดว่านักลงทุนต่างชาติคงชะลอลงทุนช่วงเข้าสู่ท้ายปี
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ โดยจับตามุมมองที่มีต่อตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมไปถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่มีขึ้นในวันที่ 19-20 ธ.ค.คาดว่าไม่น่าจะมีประเด็นเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
อีกเรื่องเป็นปัจจัยความเสี่ยงทางการเมือง หลังจีนยึดโดรน UUV สำรวจน่านน้ำทะเลจีนไต้ของสหรัฐ ซึ่งข่าวล่าสุดหลังการหารือจีนตัดสินใจจะคืนโดรน UUV ให้กับสหรัฐฯ แล้ว แต่ก็ต้องจับตาดูว่าจีนจะคืนให้จริงหรือไม่ ถ้าคืนให้จริงความเสี่ยงก็น่าจะผ่อนคลายลงไป
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายส่วนใหญ่ปรับตัวลง คาดว่าคงเป็นผลจากเรื่องจีนยึดโดรนสหรัฐ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งไซด์เวย์ เชื่อว่านักลงทุนในประเทศคงจะเทรดกันเอง พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,329.06 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,205.86 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,175.41 ล้านบาท ปิดที่ 365.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,011.46 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 981.73 ล้านบาท ปิดที่ 13.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท