นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 60 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีนี้ หลังช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีรายได้แล้ว 440.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากการขยายสาขาใหม่ และยอดขายจากสาขาเดิมที่มีทั้งหมด 18 สาขาก็ขยายตัวขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 17% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ไม่ต่ำกว่า 60%
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนปีหน้าไว้ที่ราว 200 ล้านบาท โดยประมาณ 40% จะใช้ในการขยายเครื่องจักรในโรงงาน ขณะที่อีกราว 30% จะใช้ขยายอาคารสำนักงาน ที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน และส่วนที่เหลือใช้ในการขยายสาขาใหม่ 5-7 สาขา
"เรามีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มากขึ้นในร้านของเรา และเราก็ยังเน้นการขยายสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อที่จะให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มากขึ้น ซึ่งการขยายสาขาใหม่ ๆ ของเราก็ยังมีเป้าหมายที่จะมีอัตรากำไรสุทธิที่ใกล้เคียงเดิมหรือเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนของราคาหุ้นวันนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมากเราก็ตกใจในกระแสตอบรับที่ได้เหมือนกัน แต่เราก็มองว่าเป็นเรื่องของความใกล้ชิด และเข้าไปบริโภคเองก็รับรู้แล้ว"นายแม่ทัพ กล่าว
อนึ่ง วันนี้ หุ้น AU ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 155.56% จากราคาเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ระดับ 4.50 บาท/หุ้น ขณะที่ AU มีธุรกิจ 2 ส่วน คือ ธุรกิจร้านขนมหวาน "อาฟเตอร์ ยู" และร้านน้ำแข็งไส "เมโกริ" และธุรกิจรับบริการจัดงานนอกสถานที่รวมถึงการรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้น IPO ของ AU เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้น AU ปรับตัวขึ้นที่ร้อนแรงนั้น เป็นผลมาจากแบรนด์สินค้าที่ทุกคนรู้จักดี และได้เข้าไปบริโภคเอง ทำให้รู้ว่าการเติบโตเป็นอย่างไร ส่งผลให้นักลงทุนมีความสนใจค่อนข้างมาก และในอนาคตยังมีแนวโน้มการเติบโตอีกมาก