(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาขึ้น หลัง"ทรัมป์"แถลงข่าว,บาทแข็งค่ากระตุ้นเงินไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 12, 2017 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นขานรับปัจจัยบวกจากการแถลงการณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีนโบบายต่าง ๆ เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ เงินบาทก็แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นการกระตุ้นกระแสเงินต่างประเทศไหลเข้า ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกกัน ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า

อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และประธานเฟดหลายสาขาจะมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย

พร้อมให้แนวรับ 1,568-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 ถัดไป 1,583-1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,954.28 จุด เพิ่มขึ้น 98.75 จุด (+0.50%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,563.65 จุด เพิ่มขึ้น 11.83 จุด (+0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,275.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.42 จุด (+0.28%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 64.48 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 21.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.77 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.43 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ม.ค.60) 1,572.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.83 จุด (+0.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 352.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ม.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ม.ค.60) ปิดที่ 52.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ม.ค.60) ที่ 6.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.40 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ หลังมองนโยบายศก."ทรัมป์"ยังไม่ชัดเจน
  • เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้ ขยายตัวมากกว่าปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.7% หลังราคาน้ำมันดีดตัว ชี้การเติบโตในระดับสูงขึ้นของอเมริกา เป็นผลดีต่อทั้งโลก แต่ดอกเบี้ยสูงอาจกระทบตลาดเกิดใหม่ คาดเศรษฐกิจไทย ขยายตัว 3.2% เตือนความไม่แน่นอนจากนโยบายรัฐบาลใหม่สหรัฐ ฉุดรั้งการลงทุน
  • "สมคิด"มั่นใจ GDP ปีนี้โตได้กว่า 3-4% ปลัดคลัง"น้อยใจ"เอกชน ไม่ยอมลงทุน ยืนยันกระทรวงการคลังยังไม่ "ถังแตก" ด้านเอกชนยืนยันลงทุนเฉพาะด้านจับตาการเลือกตั้ง-ปัจจัยบวกต่างประเทศกระตุ้นส่งออก ท่องเที่ยวฟื้น
  • ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ และให้นโยบายว่าจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2560 ให้ได้ตามเป้าหมาย 95% ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบไว้ก่อนหน้านี้
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การเก็บรายได้ของรัฐบาล 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 สามารถเก็บได้ 5.52 แสนล้านบาทสูงกว่า เป้าหมาย 2.7 หมื่นล้านบาทหรือ 5.2% เนื่องจากการเก็บรายได้กรมสรรพากรเกินเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจเกินเป้า 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนการเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าเป้า 2,100 ล้านบาท เนื่องจากการเก็บภาษีในเดือน ธ.ค. 2559 เริ่มกลับมาเกินเป้า หลังจากที่สองเดือนก่อนหน้านั้นเก็บได้ต่ำกว่าเป้า และกรมศุลกากรเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 5,000 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • DTAC (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 50 บาท คาดงบฯไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 528 ล้านบาท -20% qoq, -47% yoy ผลจาก 1) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นตามปกติ และ 2) ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุน ปรับประมาณการ ประเมินกำไรปี 60 ที่ 2,896 ล้านบาท + 12% จากค่าตัดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุน และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรักษาฐานของลูกค้า การลงทุนในโครงข่ายเพื่อให้บริการครอบคลุมและดียิ่งขึ้น ตอกย้ำมุมมองมูลค่าหุ้นด้วย Asset-Based Approach หรือ Replacement cost ด้วยการให้มูลค่าของลูกค้า 25 ล้านเลขหมายที่ 4,500 บาทต่อเลขหมาย
  • TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 11.50 บาท จาก 9.50 บาท จากการปรับเพิ่มกำไรปี 60 ขึ้น 6% ทำให้เติบโตสูงขึ้นเป็น 68% Y-Y หลังเห็นความชัดเจนในสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นหลายรายการ เช่น Jump Start, Sawasdee และทำให้การเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 30% ต่อปี โดดเด่นกว่ากลุ่มเครื่องดื่มที่ consensus คาดโตเฉลี่ย 17% ต่อปี สำหรับกำไรใน 4Q59 คาดว่าจะน่าประทับใจ +25% Q-Q, +107% Y-Y ทำให้ทั้งปี +50%
  • PACE (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 4.30 บาท ปรับผลงานปี 59 จากกำไรกว่า 400 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 2 พันล้านบาทเพราะการโอนมหานครล่าช้า แต่เชื่อ turnaround ชัดเจนในปีนี้ คาดจะพลิกเป็นกำไรเป็นครั้งแรก 891 ล้านบาทหลังยอดโอนคอนโดมหานครเข้ามามากตั้งแต่ Q2/60 และโตต่อเนื่อง 50% ในปีหน้าจากโรงแรมและจุดชมวิวที่จะเริ่มให้บริการปลายปีนี้ กำไรลดลงจากประมาณการเดิมเพราะสัดส่วนการถือหุ้นในโรงแรมและจุดชมวิวที่ลดลงเหลือ 51% ราคาหุ้นพักฐานทำให้ upside เปิดกว้างขึ้น
  • DRT (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้าพื้นฐาน 5.6 บาท คาด 1Q60 แนวโน้มเติบโตเด่นจาก High season และหากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้จบเร็ว คาดดีมานด์วัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมมีโอกาสเพิ่มขึ้นปลายไตรมาส รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรฟื้นเป็นบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัด พร้อมประเมินกำไรปี 60 = 440 ล้านบาท (EPS 0.42 บาท/หุ้น) คิดเป็น PE ที่ต่ำเพียง 13.1 เท่า (ถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี = 16 เท่า และเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 15%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ