AOT ติดตั้งเครื่อง X-ray-จัดเคาน์เตอร์เพิ่มในสนามบินภูเก็ต ลดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 18, 2017 14:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์สัมภาระรุ่น 9075 เพิ่มจำนวน 1 เครื่อง บริเวณประตู 2 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารและลดความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 โดยใช้ walk through ร่วมกับเครื่อง X-Ray ที่ใช้งานอยู่เดิม 8 เครื่อง ดังนั้น ขณะนี้ มีเครื่องเอ็กซเรย์ทั้งหมด 9 เครื่อง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.ได้แก่

  • บริเวณชั้น 1 ประตูหมายเลข 2 (ทิศใต้) จำนวน 1 เครื่อง และประตูหมายเลข 5 (ทิศเหนือ) จำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณด้านในขาเข้า อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.
  • บริเวณชั้น 2 ทิศใต้ จำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณด้านในหลังประตูทางเข้า อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.
  • บริเวณชั้น 3 ประตูหมายเลข 1 (ทิศใต้) จำนวน 2 เครื่อง ประตูหมายเลข 2 จำนวน 2 เครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ประตูหมายเลข 3 (ทิศเหนือ) จำนวน 2 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณ ก่อนประตูทางเข้า ขาออกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.

นอกเหนือจากการดำเนินการติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์เพิ่มเติมแล้ว ในส่วนของขั้นตอนการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ปัจจุบัน ทภก.ได้จัดเคาน์เตอร์สำหรับการตรวจหนังสือเดินทาง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก มีจำนวน 17 เคาน์เตอร์ 34 ช่องตรวจ และผู้โดยสารขาเข้า มีจำนวน 19 เคาน์เตอร์ 38 ช่องตรวจ และ ทภก.ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ ตม.เพื่อขอความร่วมมือในการจัดกำลังพลเข้าปฏิบัติงานประจำ ณ เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางตามจำนวนข้างต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์เครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ตรวจหนังสือเดินทางของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ณ ทภก. มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และ สตม.ไม่สามารถดำเนินการจัดหาได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งคณะกรรมการ ทอท.ได้มีมติเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ให้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ สตม.ในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการผู้โดยสาร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย นอกจากนั้น ทภก.ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่รอการผ่านเข้ารับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทั้งในส่วนผู้โดยสารขาออกและผู้โดยสารขาเข้าในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่นอีกด้วย

สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยแบบ Terminal Screening ที่ ทภก.ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นมาตรการระยะสั้นที่จะดำเนินการถึงปลายเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งในระยะต่อไป ทภก.จะดำเนินการมาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) แบบ Inline Screening โดยจะต้องสั่งเครื่อง work station เพื่อการวิเคราะห์ภาพจากเครื่อง X-ray เพิ่มเติมอีก 13 เครื่องจากที่มีอยู่เดิม 7 เครื่อง และจะขยายห้อง On Screen Resolution (OSR) และห้อง Baggage Inspection Room (BIR) เพิ่มเติม ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน (มกราคม - มีนาคม 2560) ในการดำเนินการสั่งซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวจากต่างประเทศรวมกระบวนการด้านงบประมาณและการพัสดุ ตลอดจนการขยายห้อง OSR และ BIR ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จผู้โดยสารจะสามารถผ่านเข้าไปในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก.และนำสัมภาระลงทะเบียนไปดำเนินการที่เคาน์เตอร์ตรวจรับบัตรโดยสารของสายการบินได้เลย โดยไม่ต้องรอคิวผ่านการตรวจค้นด้วยเครื่อง X-ray ที่ชานชาลาขาออกชั้น 3 เหมือนเช่นปัจจุบัน

ขณะนี้ ทภก.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการพัฒนา ทภก.(ปีงบประมาณ 2553–2557) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว อาจทำให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกอย่างเพียงพอ ทภก.จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ และจะเร่งปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการ ทภก.ได้รับความสะดวกสบายอย่างสูงสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ