โบรกฯแนะ"ซื้อ"BR มองกำไรปี 60 กลับมาโตรับผลบวกราคาเป็ดฟื้น-ธุรกิจในเนเธอร์แลนด์ดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 18, 2017 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.บางกอกแร้นช์ (BR) ขณะที่มองแนวโน้มกำไรปี 60 จะกลับมาเติบโตหลังจากที่หดตัวในปีที่แล้ว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาเป็ดในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ระยะสั้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนยังจะมียอดขายดีขึ้นด้วย ประกอบกับธุรกิจในเนเธอร์แลนด์จะดีขึ้น หลังจากที่คู่แข่งรายใหญ่หยุดกิจการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ BR สามารถส่งสินค้าเข้าไปทดแทนได้หนุนกำลังผลิตในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น ส่วนกรณีปัญหาไข้หวัดนกระบาดในเนเธอร์แลนด์ในช่วงที่ผ่านมานั้น จะกระทบต่อ BR ระยะสั้น

ราคาหุ้น BR พักเที่ยงอยู่ที่ 6.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท (+0.74%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.14%

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                     ซื้อ                     8.00
          กรุงศรี                      ซื้อ                     9.00
          เอเชีย พลัส                  ซื้อ                     7.30

นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า แนวโน้มกำไรของ BR ในไตรมาส 4/59 จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยประเมินกำไรสุทธิเบื้องต้น 92 ล้านบาท ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาส 3/59 หลังความต้องการเนื้อเป็ดและราคาเนื้อเป็ดดีขึ้น

ขณะที่การดำเนินธุรกิจในเนเธอร์แลนด์ได้รับผลดีจากที่ VSE คู่แข่งรายใหญ่ต้องหยุดกิจการ ทำให้ BR สามารถส่งสินค้าเข้าไปทดแทนคู่แข่งที่ปิดไปได้บางส่วนในช่วงไตรมาส 4/59 และคาดว่าจะทดแทนทั้งหมดได้ในปี 60 หลังจากสินค้าคงเหลือของ VSE ถูกเคลียร์หมดในเดือน ธ.ค. ขณะที่เชื่อว่า BR จะฟื้นตัวได้ดีอีกครั้งในปี 60 จากสถานการณ์ในเนเธอร์แลนด์และการฟื้นตัวของสถานการณ์ในประเทศไทย

ทั้งนี้ ยังคงเชื่อในการฟื้นตัวต่อจากนี้ในรูปแบบ U-shape ซึ่งมองว่ากำไรของ BR ในไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด และทรงตัวต่อเนื่องในไตรมาส 3/59 และเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/59 ก่อนจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 60 หนุนโดยการดำเนินงานในเนเธอร์แลนด์ที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกการปิดตัวของคู่แข่งรายใหญ่ ทำให้ได้รับผลกระทบเชิงบวกเต็มปี

"ปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้รับผลประโยชน์จากคู่แข่งในเนเธอร์แลนด์ที่ปิดกิจการไปจากตรวจพบไข้หวัดนกในเป็ด ช่วงนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีน BR ก็น่าจะได้รับประโยชน์ด้วยดีมานด์เข้ามาเยอะ ราคาน่าจะดีที่สุดของปี โดยรวมมองอาจจะฟื้นจากไตรมาส 4 เพราะไตรมาส 4 เป็นช่วงกินเจ"นายนภนต์ กล่าว

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ไข้หวัดนกในเนเธอร์แลนด์เริ่มคลี่คลายและจำกัดวง เนื่องจากไม่พบไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตรวจพบไข้หวัดนกระบาดในเป็ดจนได้สั่งทำลายเป็ดจำนวน 6 ฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์ม contract farming ของ BR ไปแล้วกว่า 1.9 แสนตัว และได้สั่งปิดฟาร์มดังกล่าวเป็นเวลา 2-6 สัปดาห์ เพื่อตรวจเชื้อไข้หวัดนกอย่างละเอียด

กรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ BR ในระยะสั้น ทำให้จำนวนลูกเป็ดและอาหารเป็ดที่ขายให้แก่ลูกค้าฟาร์มที่ถูกปิดมีปริมาณลดลง และระยะยาวหรือในปี 60 คาดความเชื่อมั่นในการบริโภคสัตว์ปีกในเนเธอร์แลนด์ลดลงบ้าง และกดดันต่อปริมาณขายเป็ดของ BR แต่ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากเชื่อว่าผู้บริโภคเริ่มมีความรู้ความเข้าใจต่อโรคไข้หวัดนกที่เคยระบาดในประเทศแล้ว โดยเน้นการบริโภคเป็ดปรุงสุกจากโรงเรือนปิดดังเช่นของ BR

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ BR ปี 59-60 ลง 5.0% และ 3.2% จากเดิม สะท้อนปัญหาไข้หวัดนกระบาดในเนเธอร์แลนด์ ภายหลังลดประมาณการคาดวากำไรจากการดำเนินงานของ BR ในปี 59 อ่อนตัวถึง 45.7% จากปี 58 แต่ปี 60 จะสามารถพลิกกลับมาเติบโตถึง 29.2% จากปี 59 หรือมาอยู่ที่ 395 ล้านบาท จากธุรกิจเป็ดในเนเธอร์แลนด์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น หนุนด้วยคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากที่ VSE คู่แข่งรายใหญ่ต้องหยุดกิจการไปในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 4/59 จะอยู่ที่ 75 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิมว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญกว่านี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นล่าสุด แต่กำไรสุทธิในไตรมาส 4/59 ยังจะเพิ่มขึ้น 9.9% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 38% จากงวดปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) เพิ่มขึ้นมาที่ 15% จากธุรกิจเป็ดในเนเธอร์แลนด์สามารถดำเนินการผลิต (utilization rate) เพิ่มขึ้นเต็มที่ทั้งไตรมาส นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี คาดว่าผลประกอบการของ BR น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/59 และพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป โดยจะได้แรงหนุนจากการขยายธุรกิจไปยังการแปรรูปอาหารที่มีมาร์จิ้นสูง และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากราคาเป็ดที่สูงขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง โดยราคาเป็ดในประเทศคาดว่าจะฟื้นตัวตามความต้องการภายในประเทศและการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าทดแทน (ไก่และหมู) นอกจากนี้ ราคากากถั่วเหลือง CBOT และราคาข้าวโพดในประเทศที่ลดลงจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตเป็ดของ BR ลดลง 5-6%

"สำหรับราคาเป็ดในไทย ยังไม่เคยเห็นราคาอัพเดท แต่เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น มองตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ของปีที่แล้วเริ่มเทิร์นอะราวด์ จาก bottom ที่จุดต่ำสุดไตรมาส 2 ราคาเป็ดในประเทศด้วยที่ฟื้นตัวดีขึ้น เป็ดย่างส่งออกที่ไปขายในจีน เอเชีย ยุโรป ยอดขายค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไข้หวัดนกระบาดในยุโรป จึงสามารถปรับขึ้นราคากับลูกค้ายุโรปและเอเชียได้ ส่วนใกล้ตรุษจีนปีนี้ก็ได้รับผลดีด้วย ซึ่งปกติไตรมาส 1 จะเป็นไฮซีซั่นอยู่แล้ว ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของ BR อย่างไรก็ตาม ส่วนครึ่งหลังปีนี้ก็น่าจะดีขึ้น ราคาเป็ดค่อย ๆ ฟื้น ต่างจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปอย่าง หมู ไก่ แต่เป็ด ถ้าเศรษฐกิจดีก็น่าจะขายได้ดีกว่า"นายสุนทร กล่าว

ขณะที่ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BR นับเป็นผู้นำตลาดเนื้อเป็ดทั้งในไทยและเนเธอร์แลนด์ แม้ในปี 59 คาดกำไรจะหดตัว 41% เมื่อเทียบกับปี 58 แต่คาดจะพลิกเป็นเติบโตเฉลี่ยปีละ 38% ในปี 60-61 จากธุรกิจในไทยที่ดีขึ้นหลังราคาเป็ดฟื้นและต้นทุนวัตถุดิบลง และการแข่งขันในตลาดยุโรปลดลงหลัง VSE ที่เป็นคู่แข่งประกาศปิดกิจการ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเพิ่มตลาดใหม่ ๆ และขยายธุรกิจไปสู่อาหารแปรรูป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ