โบรกเกอร์ ต่างแนะ"ซื้อ"หุ้นธนาคารกรุงไทย (KTB) พร้อมปรับขึ้นราคาเป้าหมาย หลังมองสินเชื่อปี 60 กลับมาเติบโต 4-6% จากปีก่อนติดลบ 6% คาดว่าการเบิกจ่ายเงินผ่านงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อ ขณะที่ NPL ปีนี้น่าจะคงที่ จากลูกหนี้ SME ที่อ่อนแอตามสภาพเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ขณะที่คาดการตั้งสำรองหนี้สูญในปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว
ขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (dividened yield) อยู่ระดับดีที่ 4.5% โดยคาดจ่ายเงินปันผล 0.85 บาท/หุ้น สำหรับงวดปี 59 ซึ่งสูงกว่าแบงก์อื่น รวมทั้งราคาหุ้น laggard โดยมีอัพไซด์ประมาณ 10% จากราคาเป้าหมาย
ราคาหุ้น KTB ปิดเที่ยงที่ 19.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+0.52%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.76%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 22.00 ทรีนีตี้ ซื้อ 20.70 โกลเบล็ก ซื้อ 21.60 บัวหลวง ซื้อ 21.50 ทิสโก้ ซื้อ 21.50น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" พร้อมปรับราคาเหมาะสมปี 60 เป็น 21.60 บาท จากปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของ KTB ยังดี จากสินเชื่อที่จะกลับมาเติบโตจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐที่จะต้องเบิกจ่ายผ่าน KTB ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ
ขณะที่โอกาสงานโครงการภาครัฐจะล่าช้ามีน้อยมาก โดยโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู และสีเหลือง รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่ล่าช้ามาจากปี 59 แต่ในปี 60 คาดว่าจะประมูลเสร็จเรียบร้อยและเริ่มทยอยเบิกจ่าย ทำให้เป็นปัจจัยที่ทำให้สินเชื่อของ KTB ในปีนี้พลิกกลับมาเติบโต จากปีที่แล้วสินเชื่อติดลบ 6% ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ขยาย 4-6%
“เรามองว่าจากติดลบแล้วมาเป็นบวกน่าจะเติบโตค่อนข้างมาก เรามองว่า การที่ KTB เป็นแบงก์รัฐ แผนมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ การเร่งโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเบิกจ่ายผ่าน KTB ทำให้ Loan Growth น่าจะได้จากตรงนี้"น.ส.วิลาสินี กล่าว
น.ส.วิลาสินี กล่าวว่า ในด้านของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังมี NPL อ่อนแอสุดในกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ KTB ได้ปรับปรุงวิธีการจัดขั้นสินเชื่อให้อยู่ในแนวทางระมัดระวังมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้ KTB ตั้งสำรองหนี้สูญ จำนวน 3.2 หมื่นล้านบาท จากปี 59 ที่ตั้งสำรองไว้ 3.34 หมื่นล้านบาท และในปี 58 ตั้งสำรองไว้ 3.05 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ KTB เป็นหุ้นธนาคารที่ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่น โดยคาดว่าในปี 59 จะจ่ายเงินปันผล 0.85 บาท/หุ้น จากกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) 2.31 บาท
น.ส.สุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายมาที่ 22 บาท จากเดิม 21 บาท เพราะได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อ ตามที่ผู้บริหารให้เป้าหมายไว้สินเชื่อปีนี้จะกลับมาขยายตัวได้ 4-6% จากปีก่อนติดลบราว 6% และคาดว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ระดับดีที่ 4.5% โดยคาดจ่ายเงินปันผลงวดปี 59 ที่ 0.85 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 1/60 จะมีกำไรสุทธิของ KTB จะฟื้นตัวมาที่ราว 8.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาส 4/59 และเพิ่มขึ้น 10% ในงวดปีก่อน รวมทั้งมองว่าราคาหุ้น KTB ยังอยู่ระดับต่ำ และมีอัพไซด์ราว 10% จากราคาเป้าหมาย
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองแนวโน้ม NPL ของ KTB เริ่มคงที่ในปี 60 แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/60 อาจจะเพิ่มขึ้นจากผลกระทบเศรษฐกิจต่อเนื่องจากไตรมาส 4/59 แต่คาดว่าจะเริ่มชะลอตัวในไตรมาส 2/60 ขณะเดียวกันต้นทุนการเงินลดลงจากการควบคุมงบลงทุน ได้แก่ ชะลอการขยายสาขา และการลงทุนใน Digital Banking
ด้านราคาหุ้นยังคง Laggard หุ้นแบงก์ใหญ่อยู่ 10-12% นับจากปี 59 ขณะที่คุณภาพสินเชื่อดี และการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มในปี 60 ทำให้ปรับคำแนะนำขึ้นจากเดิม"ถือ"เป็น "ซื้อ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 21.50 บาท