(เพิ่มเติม) FSMART วางเป้าปี 60 ตั้ง"ตู้บุญเติม"เป็น 1.2 แสนตู้ ยอดเติมเงิน 3 หมื่นลบ.เปิด"Be wallet"ก.พ.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 27, 2017 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เปิดแผนดำเนินเงินปี 60 วางเป้าหมายติดตั้งตู้เติมเงินบุญเติมไว้ที่จำนวน 120,000 ตู้ทั่วประเทศ เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่ปัจจุบันติดตั้งได้แล้วกว่า 90,000 ตู้ และตั้งเป้าหมายยอดเติมเงิน 30,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์ในการบริหารยอดเติมเฉลี่ยต่อตู้ทั้งการคัดเลือกทำเลในจุดคุณภาพ ตลอดจนการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการอย่างตี่อเนื่องและเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตราว 20% จากปีก่อน เป็นไปตามแผนการขยายตู้เติมเงินบุญเติมที่วางงบลงทุนไว้ราว 700-800 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์ในการบริหารยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้ทั้งการคัดเลือกทำเลในจุดคุณภาพ ตลอดจนการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่แผนในระยะยาว บริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี (60-62) จะมีตู้เติมเงิน 1.7 แสนตู้ และมียอดเติมเงินถึง 4 หมื่นล้านบาท โดยมองอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอยู่ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ซึ่งจะเน้นความสะดวก สบาย และรวดเร็วเป็นหลัก

“บริษัทยังคงรูปแบบโมเดลธุรกิจหารายได้ 5 ช่องทาง หรือ Digital Retail Channel ตามแผนเดิม ทั้งในเรื่องของการขยายจำนวนตู้เติมเงินให้ได้ 120,000 ตู้ด้วยโมเดลธุรกิจแฟรนไชน์ที่จะส่งผลต่อยอดเติมเงินตามเป้าหมายที่ 30,000 ล้านบาท รวมถึงในส่วนการหารายได้อื่นๆ โดยโมเดลดังกล่าวเป็นแผนระยะยาวที่ดำเนินการมาตลอดและสร้างการเติบโตทุกๆด้าน แต่ในปีนี้สัดส่วนยอดเติมเงินอาจมีการปรับเปลี่ยนหากบริษัทมียอดเติมเงินและรายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเข้ามาอย่างชัดเจน"นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตู้เติมเงินให้มีการเติบโต พร้อมทั้งเป็นตัวแทนการชำระเงินและโอนเงินแบบเบ็ดเสร็จที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้งาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้าและบริการ ได้แก่ ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมพร้อมเครื่องชั่ง บุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิส ตู้กดน้ำดื่มสะอาดและเติมเงิน และตู้น้ำมันอัตโนมัติ พร้อมด้วยบริการในตู้กว่า 59 รายการที่จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกๆปี อีกทั้งยังพัฒนาสินค้า และเสริมบริการใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

นอกจากนั้น บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มบริการผ่านตู้เติมเงินอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์หลายรายที่จะเพิ่มบริการการโอนเงินผ่านตู้เติมเงิน โดยคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อยอีก 1 แห่ง จากปัจจุบันให้บริการอยู่แล้ว 2 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารกสิกรไทย

และ ในเดือน ก.พ.นี้ บริษัทยังเตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ "Be wallet" บนสมาร์ทโฟน หลังจากที่มีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนเว็บไซต์จองตั๋ว www.houseofticket.com ปัจจุบันได้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบิน ของเจ็ท เรดาร์ ซึ่งภายในเดือน ก.พ.-มี.ค.60 จะเริ่มเปิดให้บริการจองตั๋วเข้าร่วมงานวิ่งระดับประเทศอีกด้วย

นายสมชัย กล่าวถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมตู้เติมเงินหลังจากมีกระแสข่าวว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จะรุกธุรกิจนี้ว่า บริษัทยอมรับว่ากังวลพอสมควรจากการมีคู่แข่งมากขึ้น แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะ FSMART เป็นพันธมิตรกับ TRUE มาโดยตลอด และกลยุทธ์ของ TRUE อาจขยายไปยังพื้นที่ที่ไม่ตรงกับตู้บุญเติม

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีความกังวลพื้นที่ตั้งตู้บุญเติมหน้าสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในเครือซีพีเช่นเดียวกับ TRUE นั้น ปัจจุบันมีตู้บุญเติมหน้าร้านเซเว่นฯ เพียง 8,000 ตู้ จากตู้รวมมากกว่า 90,000 ตู้ ซึ่งถือสัดส่วนค่อนข้างน้อย จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับบริษัทยังคงมองหาช่องทางการขยายการตั้งตู้บุญเติมในสถานที่อื่นๆ มากขึ้น เช่น สถานีบริการน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์สโตร์ เป็นต้น โดยยังมั่นใจจะยังครองมาร์เก็ตแชร์ไว้ที่อันดับ 1 ต่อไปได้

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส กล่าวว่า ในปีนี้สัดส่วนยอดเติมเงินของบริษัทอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนยอดเติมเงินมือถือจะลดลงอยู่ที่ 90% จากปีก่อนที่มีกว่า 95% เนื่องจากสัดส่วนยอดเติมเงินในส่วนของการเติมเงินอื่นๆเพิ่มขึ้น เช่น บริการโอนเงิน บริการเครื่องชั่งน้ำหนัก เช่นเดียวกับรายได้จากบริการใหม่ๆภายในตู้ที่เพิ่มขึ้น จากการเจรจากับพันธมิตรตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน การจ่ายบิลและชำระสินค้าออนไลน์ผ่านบุญเติม การซื้ออินเตอร์เน็ต และโปรเสริมของเครือข่ายต่างๆ รวมไปถึง การดูดวง การเติมเกมส์ การซื้อประกันภัยผ่านตู้บุญเติม ตลอดจนการเติม Wallet และซื้อรหัสบัตร เป็นต้น

สำหรับมูลค่าตลาดเติมเงินมือถือในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเล็กน้อย ประเมินจากปี 59 ที่มีมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาทเติบโต 5% จากปี 58 เนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยังแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งจากตลาดเติมเงินมือถือเป็นหลัก ด้วยการจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้า ซึ่งส่งผลดีกับตู้บุญเติม และบริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ในการจัดโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อส่งเสริมการขายซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนบุญเติมจะสร้างความต้องการ (demand) ในการซื้อแพกเกจผ่านตู้ โดยเพิ่มบริการในส่วนของการขาย data package ให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเติมเงินมือถือที่มีแนวโน้มใช้งานในส่วนของ non-voice หรือ data ที่มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ