หุ้น MINT, ERW, CENTEL ราคาขยับขึ้น โดยเมื่อเวลา 10.06 น.หุ้น MINT อยู่ที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+2.16%) มูลค่าซื้อขาย 123.88 ล้านบาท
หุ้น CENTEL บวก 0.68% มาอยู่ที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.65 ล้านบาท
หุ้น ERW บวก 0.45% มาอยู่ที่ 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.45 ล้านบาท
เมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 6 เดือน เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการมาตรการนี้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.59- 28 ก.พ.60 สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 19 ประเทศ ช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 12.40% สิ่งที่รัฐบาลจะได้กลับมาคือภาษีจากการใช้จ่าย
ตามมติครม.เมื่อวานนี้ ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VoA) เป็นการชั่วคราว สำหรับ 21 ประเทศ เพิ่มเติม 6 เดือน (1 มี.ค.60 – 31 ส.ค.60) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการ 1.ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย จำนวน 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว 2.ปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VoA) ให้แก่ชาวต่างชาติ โดยปรับค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ใช้ได้ครั้งเดียว เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว ซึ่งเท่ากับค่าธรรมเนียมเดิมก่อนที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 30 (พ.ศ.2559) มีผลบังคับใช้ (27 ก.ย.59)
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมีมุมมอง Slightly positive ต่อกลุ่มท่องเที่ยว โดยคาดหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่ศึกษาทั้ง บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) , บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL), บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) จะได้รับประโยชน์เล็กน้อยจากการที่ยกเว้น/ ลดค่าธรรมเนียม Visa ซึ่งหากพิจารณานักท่องเที่ยวในช่วงเดือนธ.ค. 59 ซึ่งเป็นเดือนแรกที่เริ่มใช้มาตรการยกเว้น/ลดค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับ 19 ประเทศถือว่าเป็นเดือนที่มีการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเข้มงวดทัวร์ศูนย์เหรียญมาตั้งแต่เดือนต.ค.
ซึ่งคาด ERW น่าจะได้ประโยชน์สูงสุดเนื่องจากรายได้กว่า 95% มาจากธุรกิจโรงแรมในประเทศ และมีโรงแรมระดับกลางและระดับ Economy ซึ่งน่าจะเป็นโรงแรมในกลุ่มที่นักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญด้านการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าเลือกพัก ส่วน CENTEL และ MINT คาดได้ประโยชน์รองลงมาตามลำดับ
ในไตรมาส 4/59 กลุ่มโรงแรมอาจได้รับผลกระทบบางส่วนจากการอยู่ในช่วงไว้อาลัยทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดยคาดกำไรปกติของกลุ่มที่ 1,995 ล้านบาท ลดลง 10% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 46% จากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตามคาดผลกระทบจะจำกัดเพียงไตรมาส 4 และในไตรมาส 1/60 เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนทั้งการท่องเที่ยวและการบริโภคของไทย รวมถึงทิศทางธุรกิจทั้งโรงแรมและร้านอาหารในประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส ซึ่งสนับสนุนให้คาดผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มที่ศึกษายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มต่อปีช่วง 59-61 สูงถึง 16% จึงยังคงคำแนะนำ Bullish ต่อกลุ่มท่องเที่ยว โดยคง MINT เป็น Top pick