ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,572.04 จุด เพิ่มขึ้น 7.62 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 44,893.08 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,572.22 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,561.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 537 หลักทรัพย์ ลดลง 672 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 415 หลักทรัพย์
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว วอลุ่มเทรดค่อนข้างบาง แต่ตลาดฯยังยืนในแดนบวกได้จากแรงซื้อกลุ่มแบงก์และพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์รีบาวด์ขึ้นมาหลังจากปรับลงไปมากแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และกำลังจะทยอยประกาศการจ่ายปันผล ส่วนกลุ่มพลังงานก็ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
ส่วนหุ้นตัวอื่นก็มีการ Sell on fact หลังจากที่ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว แต่ก็มีบางตัวที่หลังประกาศผลประกอบการแล้วออกมาดีช่วยหนุนราคาปรับขึ้นได้บ้าง ซึ่งช่วงนี้ปัจจัยในประเทศก็เป็นเรื่องของการประกาศผลประกอบการเป็นหลัก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า ตามดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่เมื่อคืนปรับตัวขึ้นไปอีก 118 จุดเป็น Sentiment บวกต่อภูมิภาค แต่อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็ยังรอดูนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ครั้งล่าสุดที่จะเปิดเผยออกมาในคืนวันนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 ทะลุได้มีแนวต้านถัดไป 1,575-1,577 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,257.58 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,429.52 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,328.18 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,220.03 ล้านบาท ปิดที่ 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,197.59 ล้านบาท ปิดที่ 193.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง