(แก้ไข) AMATAV ตั้งเป้าปี 60 รายได้โต 28% คาดยอดโอนที่ดิน 20 เฮกตาร์,กลุ่ม AMATA ศึกษารุกเมียนมา-ลาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 23, 2017 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อมตะวีเอ็น (AMATAV) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 28% จากปีก่อนที่มีรายได้ 906.43 ล้านบาท โดยเน้นการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม Amata City Bien Hoa ซึ่งตั้งเป้ายอดโอนที่ดินรวมในปีนี้ไว้ที่ 20 เฮกตาร์ ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว 12 เฮกตาร์

"ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างถนนเพื่อเข้าถึงพื้นที่เฟสใหม่ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ จะทำให้ผู้ซื้อที่ดินสามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯได้ทำทางเข้าในพื้นที่เฟสใหม่เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะโอนที่ดินด้านพาณิชยกรรมในด้านหน้านิคมเพิ่มเติมด้วย"นางสมหะทัย กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนพัฒนาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งปัจจุบัน โครงการ Amata City Bien Hoa ราว 20% และนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ คือ Amata City Long Thanh และ Amata Township Long Thanh ในเมือง Long Thanh จังหวัด Dong Nai ตอนใต้ของเวียดนาม 70% และส่วนที่เหลืออีกราว 10% จะใช้พัฒนาโครงการแห่งใหม่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ คือ Amata City Halong

สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เมือง Long Thanh ขณะนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนามเพื่อที่จะเข้าพัฒนาครบทั้ง 3 โครงการเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรม High Tech พื้นที่ 410 เฮกตาร์ (2,562 ไร่) โครงการเซอร์วิส ซิตี้ (Service City) พื้นที่ 753 เฮกตาร์ (4,706 ไร่) ภายใต้ Amata City Long Thanh Joint Stock Company ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเวนคืนที่ดิน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้ และจะเริ่มเข้าไปพัฒนาที่ดินและระบบสาธารณูปโภคในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับลูกค้าและรับรู้รายได้ในปี 61

ส่วนโครงการพัฒนาในส่วนของที่อยู่อาศัยและพื้นที่พาณิชยกรรมภายใต้ Amata Township Long Thanh Joint Stock Company มีพื้นที่ 107 เฮกตาร์ (669 ไร่)

นางสมหะทัย กล่าวว่า ยังคงเชื่อมั่นว่าประเทศเวียดนามจะเป็นประเทศที่กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากมีแรงงานในวัยทำงานอยู่จำนวนมาก มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี โดยมี GDP สูงเกิน 6% และยังมีสิทธิประโยชน์จากข้อตดลงในเวทีการข้าโลกที่สำคัญ อย่างเช่น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกจิอาเซียน (AEC) ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (RCEP)

ขณะเดียวกันยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั่วไป (GSP) จากสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการใช้ประเทศเวียดนามเป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ดังนั้น จึงทำให้นิคมอุตสาหกรรมของอมตะเป็นเป้าหมายของการลงทุนในประเทศเวียดนามทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นางสมหะทัย กล่าวเพิ่มเติมต่อว่า นอกจากการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในประเทศเวียดนามแล้ว กลุ่ม บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อที่จะเข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในเมียนมาและลาวเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี และมีการขยายการลงทุนของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ บริษัทจึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถเข้าไปพัฒนา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ