ABC เปิดแผนปี 60 รุก 2 ธุรกิจหลัก หวังดันสัดส่วนรายได้จากอสังหาฯ 70%,E-business 30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 24, 2017 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิรภัทร วีรชยทองคำ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 60 บริษัทยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ E-business อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้ามีรายได้ จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 70% และ E-business 30%

ทั้งนี้ ในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมชื่อว่า “ABOVE SUKHUMVIT 39" คอนโดมิเนียมหรูระดับไฮเอ็นท์ มูลค่าโครงการกว่า 2,500 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ABOVE EVERY THING" “ที่สุดแห่งความเหนือระดับ" บนถนนสุขุมวิท และโครงการ “ABC WORLD" ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท และเป็นโครงการ Office Building ให้เช่าที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดบนถนนรามคำแหง ที่มีการมิกซ์ยูสระหว่างการให้เช่าแบบร้านค้ารีเทลกึ่งออฟฟิศเซอร์วิส พื้นที่รวมกว่า 37,400 ตารางเมตร ที่จอดรถมากกว่า 650 คัน เชื่อมหลายเส้นทาง อาทิ พระราม 9 รามคำแหง ลาดพร้าว พัฒนาการ ศรีนครินทร์ เพื่อตอบรับธุรกิจทุกรูปแบบ

ส่วนธุรกิจ E-business นั้นได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทบัญชี ค(3) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถูกต้องตามกฎหมาย แบ่งเป็น ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ภายใต้ชื่อ “abcpoint" ซึ่งเป็นธุรกิจการซื้อขายสินค้าและบริการบนโลกออนไลน์ โดยรวบรวมสินค้าและบริการจากแบรนด์ชั้นนำไว้ที่เว็บไซต์ www.abcpoint.com เพียงลงทะเบียนผ่านระบบ abcpoint นวัตกรรมสำหรับนักช้อปออนไลน์ ด้วยการเพิ่มมูลค่าจากการใช้พ้อยท์บัตรเครดิตแลกสินค้าแทนเงินสด ลูกค้าสามารถรวมพ้อยท์จากบัตรเครดิตบุคคลใดก็ได้ หรือโอนพ้อยท์ระหว่างสมาชิก abcpoint ซึ่งจำนวนพ้อยท์ไม่มีวันหมดอายุ และยังสามารถนำคะแนน abcpoint มาชำระค่าบริการสาธารณูปโภคได้อีกด้วย

“WeChat Pay" แอพพลิเคชั่น E-Payment ในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านระบบ QR Code ที่เป็นที่นิยมจากประเทศจีน โดย ABC ได้มีการจับมือเซ็นสัญญาร่วมกับ Ksher และ WeChat Pay ประเทศจีน นำเข้ามาเปิดใช้ในประเทศไทย เพื่อรองรับการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เข้ามาในประเทศไทยถึง 8.7 ล้านคน/ปี และด้วยการเติบโตของโลกออนไลน์ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยง่ายขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันระบบ WeChat Pay มีตัวเลขการใช้บริการอยู่ที่ประมาณเดือนละ 100 ล้านบาท และภายในปี 60 คาดว่าจะมียอดการใช้บริการไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท ทำให้ธุรกิจ E-Payment เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัท เพิ่มขึ้นในระยะยาว แบบยั่งยืน ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว แข็งแกร่งและมีเครือข่ายทั่วโลก

"ทั้งหมดนี้เป็นธุรกิจที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมาตั้งแต่เริ่มต้น และยังมีการรับรู้รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 59"นายจิรภัทร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ