โบรกฯเชียร์"ซื้อ"GFPT รับอานิสงส์ไข้หวัดนกระบาดเกาหลี-ญี่ปุ่นดันวอลุ่มส่งออก,ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 28, 2017 15:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ" หุ้น บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) เพราะได้รับผลดีจากไข้หวัดนกระบาดในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นโอกาสให้ไทยส่งออกไก่ได้มากขึ้น ขณะที่กรมปศุสัตว์จะกลับมาเปิดตลาดตะวันออกลาง จึงคาดว่าปริมาณขายของ GFPT ปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ราคาไก่ในประเทศปีนี้น่าจะขยับได้บ้างหรือทรงตัวที่ระดับ 38-39 บาท/กิโลกรัม (กก.)

ส่วนราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักจากกากถั่วเหลือง และข้าวโพดทรงตัว ทำให้กำไรในปีนี้เติบโตต่อเนื่อง แม้มาร์จิ้นเพิ่มไม่มากแต่เพราะวอลุ่มขึ้นมามาก จึงคาดกำไรปีนี้เติบโต 2.5 -9.0% มาที่ 1,634-1,792 ล้านบาท จึงทำให้ปรับขึ้นราคาเป้าหมายของปี 60 อีก 0.60-1.30 บาท/หุ้น

ราคาหุ้น GFPT ช่วงบ่ายอยู่ที่ 15.70 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.63%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.25%

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          ซีไอเอ็มบีฯ                       ซื้อ                   18.60
          บัวหลวง                         ซื้อ                   18.50
          ฟินันเซีย ไซรัส                    ซื้อ                   18.30
          ทิสโก้                           ซื้อ                   17.80
          ฟิลลิปฯ                          ซื้อ                   17.60
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ                 ซื้อ                   17.40
          เคทีบีฯ                          ซื้อ                   17.00

นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวแนะนำ"ซื้อ" GFPT โดยได้ปรับราคาเป้าหมายจาก 17.50 บาท เป็น 18.50 บาท เนื่องจากเห็นว่าปีนี้ GFPT จะมีปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการส่งออกมากขึ้นไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนก ซึ่งจะเห็นออเดอร์จากญี่ปุ่นเข้ามาในครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนเกาหลีใต้น่าจะเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนหลังเปิดตลาดส่งออกไก่สดแช่แข็ง ขณะเดียวกันกรมปศุสัตว์ก็จะเปิดตลาดไก่เนื้อส่งออกไปกลุ่มประเทศตะวันออกลาง ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น

สำหรับราคาวัตถุดิบหลักคือข้าวโพด และกากถั่วเหลือง คาดว่าจะทรงตัวในปีนี้ หรือหากปรับขึ้นก็จะไม่ปรับขึ้นแรง เพราะปริมาณถั่วเหลืองตลาดโลกยังมีอยู่มาก

"ปีนี้เน้นวอลุ่ม แต่มาร์จิ้นทรงตัว เรามองกำไรปี 60 โต 9% มาที่ 1,792 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.43 บาท ก็ปรับเพิ่มเป้าหมายเป็น 18.50 บาท จาก 17.50 บาท ก็แนะนำ"ซื้อ" จากที่บริษัทส่งออกได้มากขึ้น"นายประสิทธิ์ กล่าว

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนราคาไก่ในประเทศในปีนี้ยังมีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่าประมาณ 38-39 บาท/กก. ปรับขึ้นมา 1-2 บาท/กก. ซึ่งภาพรวมค่อย ๆ ฟื้นตัว เทียบกับปีที่แล้วที่ราคานิ่ง แต่ปีนี้คาดว่าน่าจะขยับได้จากการส่งออกไปมาก ทำให้ซัพพลายในประเทศตึงตัวเล็กน้อย

ขณะที่นางสาวสุรีย์พร ทีวะสุเวทย์ นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ปรับขึ้นราคาเป้าหมายหุ้น GFPT จาก 17.70 บาท เพิ่มเป็น 18.30 บาท เพราะผลประกอบการในปี 59 ออกมาดีกว่าคาด และภาพรวมในปี 60 ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรปี 60 คาดไว้ที่ 1,634 ล้านบาท เติบโตเพียง 2.5% จากปี 59 ที่มีกำไรปกติ 1,594 ล้านบาท เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน

ในปีนี้คาดว่า GFPT จะมีการส่งออกไก่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้เติบโต 8% โดยมีตลาดสำคัญคือ ญี่ปุ่นและเกาหลี ที่มีการระบาดของไข้หวัดนก โดยในไตรมาส 4/59 ทำยอดขายส่งออกได้ดีมาก อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 14% ต่ำกว่าปีก่อนอยู่ที่ 15% เพราะแนวโน้มราคาวัตถุดิบน่าจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ปรับขึ้นแรง

"แนะนำ"ซื้อ" P/E ถูกมาก ราคา target price ของเรา มี P/E 14 เท่า"นางสาวสุรีย์พร กล่าว

ส่วน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปี 60 ของ GFPT จะเติบโตได้ในอัตราที่ลดลงจากผลบวกของราคาวัตถุดิบที่คงไม่มากอย่างเช่นปีที่ผ่านมา รวมถึงการกลับมาจ่ายภาษีในอัตราปกติจากสิทธิประโยชน์ที่หมดลง อย่างไรก็ตามจากการอนุญาตนำเข้าไก่จากไทยเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เช่น เกาหลี และสิงคโปร์ รวมถึงอยู่ระหว่างการเจรจาการส่งออกไก่ไปตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพการบริโภคที่สูงจะทำให้การส่งออกไก่ไทยยังเติบโตได้ดี ขณะที่ตลาดส่งออกเดิมที่มีการเติบโตมากอย่างญี่ปุ่นเชื่อว่าจะยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง

ทางฝ่ายปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 60 เพิ่มขึ้น โดยปรับยอดขายเพิ่มเป็น 18,166 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการส่งออกราว 7% ขณะที่ราคาขายเพิ่มเพียง 3% แต่คาดว่าแนวโน้มมาร์จิ้นอาจต่ำลง เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลบวกของราคาวัตถุดิบที่อาจจะไม่มากอย่างเช่นปีที่ผ่านมา แต่หากว่าการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจะเพิ่มเป็น 387 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของกำไรทั้งแมคคีย์และ GFN ด่านอัตราภาษีจ่ายกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ปรับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 1,697 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่แล้ว

"แม้การดำเนินงานปี 60 อาจเติบโตได้ไม่มาก แต่ทางฝ่ายยังชอบ GFPT จากศักยภาพการดำเนินงานที่ดูแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม อีกทั้งการเติบโตในตลาดส่งออกทั้งในส่วนของบริษัท รวมถึงบริษัทร่วมทุนอย่างแมคคีย์และ GFN ที่มีการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงานในระยะยาว ทางฝ่ายปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" และปรับราคาพื้นฐานเป็น 17.60 บาท จาก 16.30 บาท" บทวิเคราะห์ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ