ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,559.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 37,389.88 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,563.96 จุด ขณะที่ดัชนีปรับลงทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,557.93 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 525 หลักทรัพย์ ลดลง 642 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 387 หลักทรัพย์
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ รอดูการแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในคืนนี้ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด หลังจากที่ตลาดได้ตอบรับเชิงบวกต่อผลประกอบการปั 59 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไปก่อนหน้านี้แล้ว และเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาทำให้ภาพตลาดรวมซึมตัวลงต่อเนื่อง
ประกอบกับมูลค่าการซื้อขายเบาบางลง ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้ให้ความสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะมีการประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ออกมาต่อเนื่อง แต่หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ไม่ได้ตอบสนองมากนัก ขณะที่เริ่มเห็นแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบแบงก์ในไตรมาส 4/59 ที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ก่อนหน้านี้ ขายทำกำไรออกมาด้วยเช่นกัน ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทยในวันนี้ ไม่ได้ช่วยหนุนตลาดมากนักเพราะตลาดรับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังต้องฝากความหวังกับตลาดต่างประเทศหลังจากการประกาศผลประกอบการแล้วเสร็จ ก็จะไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ขณะนี้ตลาดก็เริ่มมีความกังวลว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปรับตัวลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 12 ซึ่งยาวนานสุดนับตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งหากการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาไม่ดีพอก็อาจจะทำให้มีแรงขายออกมาได้
ทั้งนี้ แนวโน้มการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ ยังต้องจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐในคืนนี้ด้วย ซึ่งหากตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้ตอบสนองมากนัก ตลาดหุ้นไทยซึ่งมีแนวโน้มอ่อนแออยู่แล้ว ก็อาจจะหลุดระดับ 1,550 จุดลงมา และมีแนวรับถัดไปที่บบริเวณ 1,545 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,565-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,589.61 ล้านบาท ปิดที่ 19.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,196.96 ล้านบาท ปิดที่ 397.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,039.61 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 978.88 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 826.79 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง