KTAM เปิดขายกองตราสารหนี้ 6 เดือน ถึง 7 มี.ค.คาดผลตอบแทน 1.50% ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 2, 2017 13:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 133 (KTFF133) ถึงวันที่ 7 มี.ค.60 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 10,000 ล้านบาท

กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทเงินฝากประจำ Bank of China, Macau Branch อัตราผลตอบแทน 1.84% ต่อปี, China Construction Bank (Asia) Corporation Limited อัตราผลตอบแทน 1.83% ต่อปี, Agricultural Bank of China (Hong Kong Branch) อัตราผลตอบแทน 1.84% ต่อปี, AI Khalij Commercial Bank อัตราผลตอบแทน 1.78% ต่อปี, Union National Bank PJSC อัตราผลตอบแทน 1.70% ต่อปี และ Qatar Nation Bank อัตราผลตอบแทน 1.68% ต่อปี โดยกองทุนจะลงทุนในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ยกเว้นเงินฝากประจำ Qatar Nation Bank ลงทุน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.29% ต่อปี ดังนั้น ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี ซึ่งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ หลังจากเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเวลาอันรวดเร็วดังที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ โดยเฟดจะยังคงติดตามการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ และมองว่ายังไม่มีความแน่นอนด้านผลกระทบจากนโยบายการคลังของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ขณะที่กระทรวงการคลังก็มองว่ายังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.12% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.80% ต่อปี อายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.31 % ต่อปี

ส่วนนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงเพิ่มขึ้น และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ได้ ในปีนี้ ขอแนะนำกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid & Small Cap (KTMSEQ) เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นกองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

จุดเด่นของ KTMSEQ ได้แก่ การใช้ Bottom up approach เป็นหลักในการคัดเลือกหุ้นและบริหารกองทุน ซึ่งน่าจะเหมาะสมกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับงานด้านวิเคราะห์ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค รายกลุ่มอุตสาหกรรม และการวิเคราะห์ที่ลงลึกถึงรายบริษัท และเป็นหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากกระแสเม็ดเงินไหลเข้า-ออกของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะมีความผันผวนค่อนข้างสูงตลอดทั้งปี

กองทุน KTMSEQ จึงน่าจะเป็นกองทุนหุ้นที่ตอบโจทย์นักลงทุนสำหรับภาวะการลงทุนในปีนี้ โดยผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 17 ก.พ.60 เทียบระหว่างกองทุนกับ SET ผลตอบแทน YTD ( 2 ม.ค-17 ก.พ.60) อยู่ที่ 4.52% SET อยู่ที่ 2.37% 6 เดือน อยู่ที่ 15.55% SET อยู่ที่ 3.12% และ 1 ปีอยู่ที่ 42.98% SET อยู่ที่ 22.52%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ