ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 3.74 จุด สอดคล้องตลาดเพื่อนบ้าน,ลดความเสี่ยงหวั่นเฟดขึ้นดบ./สัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 3, 2017 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,566.20 จุด ลดลง 3.74 จุด (-0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 34,048.34 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,569.74 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,564.16 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 408 หลักทรัพย์ ลดลง 743 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 374 หลักทรัพย์

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลงมาสอดคล้องกับตลาดเพื่อนบ้าน ตอบรับน้ำหนักที่มีมากขึ้นในเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงออกมาก่อน

อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามถ้อยแถลงของคณะกรรมการเฟด 2 รายคือ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ว่าจะพูดออกมาในทิศทางเดียวกับคณะกรรมการเฟดรายอื่นที่พูดไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าพูดออกมาสอดคล้องกันก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งก็จะไปกดดันตลาดเกิดใหม่ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway down โดยมองว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนมี.ค.จะเป็นไปตามแรงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้อของเฟดเป็นหลัก พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,590 จุด

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าให้ติดตามความน่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ดูว่าจะให้น้ำหนักมากขึ้นต่อไปอีกหรือไม่ และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์หน้า ถ้าออกมาแข็งแกร่งก็จะทำให้เฟดมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้น นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่านโยบายคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ก็ให้ติดตามประมาณการของ ECB รอบใหม่ ในตัว GDP, เงินเฟ้อ เพราะจะเป็นตัวชี้นำนโยบายของ ECB ต่อไป

ในด้านกลยุทธ์การลงทุนในเดือนมี.ค. นายณัฐชาต กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมี.ค. ถ้าตลาดฯย่อตัวลงมาแถว 1,550-1,530 จุด ก็ให้เข้าซื้อได้ ซึ่งในครึ่งแรกของเดือนมี.ค.ตลาดฯคงจะถูกกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ทิศทางตลาดฯจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค. ไม่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ตลาดฯได้ตอบรับเรื่องดังกล่าวไปแล้ว

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KKP มูลค่าการซื้อขาย 1,500.45 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,476.92 ล้านบาท ปิดที่ 6.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,438.70 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,410.04 ล้านบาท ปิดที่ 396.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

GL มูลค่าการซื้อขาย 1,044.23 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 4.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ