(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาคหลังเฟดขึ้นดบ.ตามคาด, เล็งกลุ่มพลังงานนำขานรับน้ำมันขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 16, 2017 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างดีดตัวขึ้นกันทั่วหน้าเฉลี่ยเกือบ 1% หลังจากที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นไปตามคาด โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ตลาดฯก็คงคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาอ่อนค่าลง ซึ่งทำให้น่าจะมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในเอเชีย และเข้ามาที่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยราคาน้ำมันก็รีบาวด์ขึ้นมาด้วย ทำให้วันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะขึ้นนำตลาดฯ

พร้อมให้แนวต้าน 1,550-1,555 จุด ส่วนแนวรับ 1,537 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,950.10 จุด เพิ่มขึ้น 112.73 จุด (+0.54%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,900.05 จุด เพิ่มขึ้น 43.23 จุด (+0.74%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,385.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.81 จุด (+0.84%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 118.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 309.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 28.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.98 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 มี.ค.60) 1,540.80 จุด ลดลง 2.35 จุด (-0.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,487.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 มี.ค.60) ปิดที่ 48.86 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 มี.ค.60) ที่ 5.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.06 แข็งค่าตามภูมิภาค จากแรงขายดอลล์ขานรับเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด
  • เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.นี้ จะมีการหารือถึงแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โดยวาระสำคัญจะพิจารณาใช้งบประมาณในปี 2562 ของโครงการ วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท มาปรับใช้ในโครงการก่อน ซึ่งตามแผนจะมีการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับได้ปีละ 3 ล้านคน เป็นปีละ 15 ล้านคน ภายใน 5 ปี
  • แหล่งข่าวจากสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2560 โดยรวมในรอบ 5 เดือน (ต.ค. 2559-28 ก.พ. 2560) โดยรวมส่วนราชการได้เบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 1.24 ล้านล้านบาท คิดเป็น 45.69% ของงบประมาณทั้งหมด 2.73 ล้านล้านบาท
  • บอร์ด กทค.ไฟเขียวส่งข้อมูล สตง.ช่วยตรวจสอบจำนวนเงินที่ทรูมูฟต้องจ่ายหลังสิ้นสุดสัมปทานใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ชี้ กทค.พิจารณาช้า ดูมา 3 ปี ยังไม่สรุป เหตุกลัวโดนฟ้องกลับ พร้อมอนุมัติเลิกผู้มีอำนาจเหนือตลาดทรู อินเตอร์เน็ต
  • กนอ.ลุ้น ครม.ไฟเขียวมาตรการเช่าที่ดินนิคมฯ สระแก้ว ภายใน มี.ค.นี้ เปิดโปรโมชั่นฟรีค่าเช่ากระตุ้นการลงทุน เผยเตรียมเปิดนิคมฯ อย่างเป็นทางการ เดือน มิ.ย.60 นี้ คาดนักลงทุนเข้าก่อสร้างได้เดือน เม.ย.เป็นต้นไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KOOL (ไอร่า) เป้า 8.20 บาท คาดยอดขายจะเติบโตดีขึ้นตามลำดับในช่วงไตรมาส 1 เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. หลังตัวแทนจำหน่ายมีคำสั่งซื้อสินค้า เพื่อเตรียมขายในช่วงฤดูร้อน ขณะที่ไตรมาส 2 ยอดขายได้รับประโยชน์จากช่วง High Season ของทุกปีที่เป็นฤดูร้อน ขณะที่มีการขยายช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะ Modern Trade ที่มียอดขายมากที่สุด ปัจจุบันมี 520 สาขา เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 240 สาขา เมื่อปลายปี 59 โดยส่วนใหญ่เกิดจากการขยายเข้าไปในห้างสรรพสินค้า Big C และ Tesco Lotus ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ Export ที่มีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน หลัง KOOL ออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศจีนต่อเนื่อง โดยเริ่มเป็นสัญญาณบวกจากยอดส่งออกในงวด 4Q/59 เติบโตราว 60% ด้านผลการดำเนินงานในปี 60 ยังเติบโตโดดเด่น คาดรายได้ขาย 1,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 47% และคาดกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 50% อยู่ที่ 130 ล้านบาท
  • SWC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 14.70 บาท ได้รับอนุมัติให้วางขายสินค้ากลุ่มทำความสะอาดเครื่องใช้สำหรับเด็ก (TEEPOL Baby) ในเซ็นทรัล จากเดิมที่ได้วางในท็อปส์ เริ่มจำหน่ายเม.ย. นี้ ส่วนยอดขายสินค้ากำจัดแมลงในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นโดดเด่นจาก 10% ของรายได้รวมในปีก่อนเป็น 15% SWC ได้อานิสงส์จากเงินบาทแข็งค่าและราคาน้ำมันลดลง โดยคาดกำไรปีนี้ +38% Y-Y ปัจจุบันมี PE เพียง 10 เท่า พร้อมคาดจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้นงวด 2H59 (yield 2.1%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ