(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ ชี้ Sentiment ตลาดยังรีบาวด์ได้ แต่อาจมีแรงขายทำกำไรระหว่างเทรดถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 17, 2017 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก โดยตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็จะเจอแรง take profit ระหว่างทางบ้าง

ทั้งนี้ ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ส่วนผลการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ก็เป็นตามคาด เช้านี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเล็กน้อย มีแค่นักลงทุนต่างชาติที่ยังขายอยู่ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะชะลอการขายลง หลังจากที่ได้ปรับพอร์ตไปแล้ว ดังนั้นตลาดฯน่าจะอยู่ใน Sentiment ของการฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ แต่ก็คงจะไปได้ไม่ไกล

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,553 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,934.55 จุด ลดลง 15.55 จุด (-0.07%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,900.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด (+0.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,381.38 จุด ลดลง 3.88 จุด (-0.16%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 79.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.93 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 87.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.39 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.40 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.24 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 28.41 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 มี.ค.60) 1,557.05 จุด เพิ่มขึ้น 16.25 จุด (+1.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,317.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 มี.ค.60) ปิดที่ 48.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 มี.ค.60) ที่ 5.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.94/97 แนวโน้มแข็งค่าต่อจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 34.90-35.00
  • ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า เจโทรได้สำรวจภาวะธุรกิจบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย รวม 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยบริษัทญี่ปุ่นมองภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2560-2561
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ 0.75-1% ตามความคาดหมายระหว่างการประชุมรอบล่าสุด ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งผ่านอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่เหลือในปีนี้ให้มากขึ้นตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกตอบรับในแดนบวกจนทุบสถิติใหม่
  • ธปท.แย้ง IMF ระบุเศรษฐกิจไทยไม่ได้ติดกับดักเงินเฟ้อต่ำ ย้ำดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 1.5% เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ถ้าลดดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบการออมและเสถียรภาพการเงินของประเทศ ส่วนความไม่แน่นอนขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะสร้างความผันผวนต่อไป
  • กฟผ.จ่อรื้อพีดีพี 2015 ดันพลังงานทดแทนเพิ่ม 2,000 เมกะวัตต์ หวังเพิ่มสัดส่วนการผลิตของ กฟผ.ให้อยู่ในระดับ 40% ของประเทศ และรักษาเสถียรภาพด้านไฟฟ้า

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KSL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.30 บาท กำไรปกติ 1Q60 (พ.ย.59-ม.ค.60) ตามคาด 314 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 4Q59 แต่ -10% Y-Y เพราะผู้ซื้อรับมอบน้ำตาลช้ากว่าปกติ ทำให้ปริมาณขายน้ำตาล -43% Y-Y แนวโน้มกำไรจะสดใสขึ้นใน 2Q60 (ก.พ.-เม.ย.) เพราะเข้าฤดูส่งออกน้ำตาล และมียอดขายที่เลื่อนรับรู้มาจากไตรมาสก่อน รวมถึงเป็นฤดูหีบเต็มที่ เป็นบวกต่อธุรกิจไฟฟ้าและเอทานอล และจะรับรู้รายได้จากที่ลาวและกัมพูชาซึ่งน่าจะขาดทุนลดลงหรืออาจพลิกเป็นคุ้มทุน คาดกำไรปกติปีนี้ +167% Y-Y
  • SCB (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 174 บาท คาดกำไรปี 60 ราว 5.17 หมื่นล้านบาท +9%YoY และคาดจะ +10% เป็น 5.67 หมื่นล้านบาทในปี 61 โดยปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 4-6% มุ่งเน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ เป้า NIM 3.1-3.3% เป้าการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยราว 3-4% จากกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ด้าน Wealth Management ให้กับลูกค้ารายย่อย ด้านคุณภาพสินทรัพย์ตั้งเป้ารักษา NPL ให้ต่ำกว่า 3% ทิศทางการตั้งสำรองหนี้เสียปีนี้น่าจะปรับตัวลดลงปีก่อนจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้กลับมาดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งผลให้หนี้เสียกลับมามีคุณภาพมากขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปีนี้โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีแพลทฟอร์ม
  • ADVANC (ซีไอเอ็มบีฯ) "ซื้อ"เป้า 186 บาท พานักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทไปพบนักลงทุนที่มาเลเซีย และ สิงคโปร์ นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการแข่งขัน แต่กังวลเกี่ยวกับราคาค่าใบอนุญาตที่จะสูงมากเกินไปในอนาคต ทั้งนี้ มองว่า AIS เป็นบริษัทที่จะได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่ลดลง และ รูปแบบการประมูลใบอนุญาตที่ดีขึ้น
  • SPRC (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 15.50 บาท คาดผลการดำเนินงานในช่วง 1Q/60 ยังคงแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าการกลั่นของน้ำมันเบนซินในช่วง 1Q/60 YTD อยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่คาดช่วง 1Q/60 จะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเพียงเล็กน้อย จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 51 USD/bbl จาก 54 USD/bbl ณ ปลายปี 59 พร้อมคาดผลการดำเนินงานในปี 60 จะมีกำไรสุทธิ 6,734 ล้านบาท ในขณะที่ SPRC ยังไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีความสามารถในการจ่ายปันผลได้สูง โดยคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 7.7% (ปันผลงวด 2H/59 จำนวน 0.6446 บาท, จะขึ้น XD วันที่ 17 เม.ย. 60)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ