ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด (+0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 35,671.48 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,575.39 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,566.60 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 516 หลักทรัพย์ ลดลง 593 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 416 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังปรับตัวขึ้นไปได้บ้าง ทั้งที่ Sentiment จากข้างนอกยังไม่แน่นอน โดยยังต้องรอการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะลงมติเกี่ยวกับร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" มาใช้แทน "โอบามาแคร์"ในวันนี้ และยังต้องรอดูประเด็น Brexit จากการเลือกตั้งในยุโรปด้วย
ส่วนปัจจัยในประเทศก็ยังไม่ค่อยมีอะไร โครงการรถไฟทางคู่ก็เลื่อนออกไป จะมีเพียงการจ่ายปันผลของบรัษัทจดทะเบียน ที่พอจะช่วยประคองตลาดฯได้บ้าง ส่วนราคาน้ำมันก็ยังผันผวนมาก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ก็ติดลบ
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยดัชนีฯยังมีโอกาสที่จะไปต่อได้แต่ก็มี upside จำกัด โดยเฉพาะเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด ซึ่งก็คงจะยังไม่ง่ายที่จะผ่านไปได้ นอกจากนี้สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ พร้อมมองตลาดฯยังเป็นลักษณะของการเทรดดิ้งอยู่ โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,555-1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GL มูลค่าการซื้อขาย 3,109.47 ล้านบาท ปิดที่ 22.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,637.15 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,551.82 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,174.31 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,081.47 ล้านบาท ปิดที่ 540.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท