NPP-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 66.41 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.28 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.32 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.23 บาท
ขณะที่หุ้น NPP ปิดที่ 0.86 บาท ลดลง 0.03 บาท (-3.37%) มูลค่าซื้อขาย 26.82 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.89 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.90 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.86 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) หรือ NPP ใช้ชื่อย่อว่า NPP-W3 หากเปรียบเทียบกับ NPP-W2 (อายุคงเหลือ 0.94 ปี ราคาใช้สิทธิที่ 1.72 บาท อัตราการใช้สิทธิ 1:1.047) ซึ่งซื้อขายอยู่ในตลาดที่ราคา 0.52 บาท คิดเป็น All-in Premium 151% ในขณะที่ NPP-W3 มีความน่าสนใจที่มากกว่าจากราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่า และอายุที่ยาวกว่าควรจะมีราคาที่สูงกว่า ทำให้มองว่านักลงทุนที่มี NPP-W2 ควรขายและเปลี่ยนมา NPP-W3 แทน
แต่อย่างไรก็ตามจากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 0.89 บาท (30 มี.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ NPP-W3 เพียง 0.15 บาท คิดเป็น All-in Premium 40% จึงแนะนำให้ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง พร้อมให้กรอบมูลค่า NPP-W3 ไว้ที่ 0.11-0.19 บาท เมื่อราคาหุ้น NPP เคลื่อนไหวในกรอบ 0.79-0.99 บาท โดยมี Volatility 50% per year
NPP ธุรกิจหลักได้แก่ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ เช่น พลาสติกประเภทอ่อนตัว (Flexible Packaging) ขวดพีอีที (PET : Polyethylene Terephthalate Bottle) และบรรจุภัณฑ์พลาสติกขึ้นรูปด้วยระบบ Vacuum เช่น ถาดบรรจุอาหาร เพื่อใช้สำหรับบรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภคประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนและประกอบธุรกิจต่างๆ ที่มีความต่อเนื่องและเป็นการสนับสนุนธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจร้านอาหาร, เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม, ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง และอาหารพร้อมทาน, ธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณาในสถานีบริการปั้มน้ำมัน และธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์
NPP-W3 จำนวนที่ออก 248.17 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม : 1 หุ้นเพิ่มทุน ที่ราคา 1.10 บาท/หุ้น ได้รับ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ (ขึ้นเครื่องหมาย XRW ในวันที่ 5 ม.ค.2560) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 ที่ราคาหุ้นละ 1.10 บาท, อายุ 1.5 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ครั้งเดียวคือวันที่หมดอายุ (7 ก.ย.2561)