ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,575.11 จุด ลดลง 4.77 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 38,033.69 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,584.96 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,574.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 427 หลักทรัพย์ ลดลง 636 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 426 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวลงในกรอบแคบหลังจากที่เข้าใกล้ช่วงฤดูกาลที่จะมีวันหยุดหลายวัน อย่างไรก็ดี ตลาดในเอเชียถือว่ายังดูดีกว่าตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากมีเงินไหลกลับมาในเอเชียหลังจากที่นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มมีความไม่แน่นอน
นอกจากนี้ ตลาดฯก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60 ไม่น่าจะมีผลอะไรต่อตลาดฯ
ทั้งนี้ปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า เป็นตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงาน และการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะมีขึ้นในเดือนเม.ย. โดยให้ติดตามดูจะมีมุมมองด้านการค้าเพิ่มหรือไม่ ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หลังจากที่ขณะนี้ค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากเกินไป และสหรัฐฯก็ขาดทุนการค้ากับจีนมาก
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว เนื่องจากยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,055.58 ล้านบาท ปิดที่ 387.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,781.04 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,469.90 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,273.04 ล้านบาท ปิดที่ 6.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,118.40 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 0.25 บาท