(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงปรับลง เจอแรงกดดัน"ทรัมป์"ตรวจสอบ 16 ปท.รวมไทยกรณีทำให้ขาดดุลการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 3, 2017 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ และอาจจะปรับตัวลงได้ อันเป็นผลจากคำสั่งใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นคำสั่งพิเศษในการตรวจสอบพิเศษกับ 16 ประเทศรวมถึงไทยด้วย ที่ทำให้สหรัฐฯขาดดุลการค้า แต่เรื่องนี้ก็ให้ระยะเวลาการตรวจสอบ 90 วัน ดังนั้นอาจจะกดดันหุ้นในกลุ่มส่งออกได้

นอกจากนี้เงินนอกก็เริ่มแผ่วลง อาจเป็นผลจากที่ใกล้ช่วงวันหยุดเทศกาลทั้งในสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า และสัปดาห์นี้ตลาดฯก็มีหุ้นใหญ่หลายตัวที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ทั้ง SCC, ADVANC, INTUCH เป็นต้น ซึ่งก็อาจกระทบต่อดัชนีฯราว 4 จุดในสัปดาห์นี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกราว 0.2-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,663.22 ปรับตัวลง 65.27 จุด (-0.31%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,911.74 จุด ขยับลง 2.61 จุด (-0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.72 จุด ลดลง 5.34 จุด (-0.23%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 78.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 124.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.29 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 มี.ค.60) 1,575.11 จุด ลดลง 4.77 จุด (-0.30%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 282.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 มี.ค.60) ปิดที่ 50.60 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 มี.ค.60) ที่ 7.00 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.31 แข็งค่ารอบ 20 เดือน รับเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 34.25-34.35
  • เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สศช.ได้รับมอบนโยบายจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการเตรียมความพร้อมของการวางแผนการจัดตั้งและพัฒนาพื้นที่บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เป็นเมืองศูนย์ราชการเพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการอีอีซี และรองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ
  • ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับสมาชิกกลุ่มชิ้นส่วนฯ เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวพร้อมผลกระทบจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกคำสั่งพิเศษ 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ให้หาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามหาศาลจาก 16 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรปตะวันออก อาเซียน รวมทั้งไทย ว่าเกิดจากสาเหตุใดโดยให้เวลาศึกษา 90 วันจะต้องได้ผลสรุป
  • แบงก์ชาติชี้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยยังไม่น่าห่วง คาดครึ่งหลังของปีนี้ระดับหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีลดลงอย่างชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจช่วยหนุน ล่าสุดระดับหนี้ครัวเรือนแตะ 79.9% ณ สิ้นปี 59 และยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนในระบบแตะ 11.47 ล้านบาท
  • "พาณิชย์" คาดกฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เดือน ก.ย.นี้ หลัง สนช.ผ่านร่าง 3 วาระแล้ว ลั่นเพิ่มเขี้ยวเล็บ บอร์ดแข่งขัน หลังมีอำนาจใช้โทษทางปกครองหยุดพฤติกรรมแข่งขันไม่เป็นธรรม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • D (บมจ.เดนทัล คอร์ปอเรชั่น) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาขาย IPO 6.00 บาท/หุ้น ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ 7 บาท อิง PE 25 เท่าหรือ PEG 1 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิปี 2560-2561 โตแข็งแกร่งเฉลี่ย 24.7% ต่อปี ได้แรงหนุนจากทั้งรายได้ที่เติบโตจากสาขาเดิมและแผนเปิดสาขาใหม่ปีละ 3-4 สาขา

บริษัทฯให้บริการทันตกรรมครบวงจร ปัจจุบันมี 12 สาขา (10 สาขาในกรุงเทพและ 2 สาขาในภูเก็ต) ดำเนินการภายในแบรนด์ BIDC, Dental Signature และ Smile Signature มีจุดเด่นด้านคุณภาพบริการที่ได้มาตรฐานสากลและมีความรวดเร็ว

  • SYNEX (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 15.5 บาท แนวโน้มกำไรปี 2560-2562 โตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี จากการเพิ่มพอร์สินค้าปีละ 2-3 แบรนด์ การขยายไปเมียนมา การรุกธุรกิจลีสซิ่ง และการคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ กำไร 1Q60 คาด +20% Y-Y ปัจจุบันมี PE 16 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มจำหน่ายสินค้า IT ที่ 25 เท่า
  • PTTGC (โกลเบล็ก) เป้า 77 บาท คาดกำไรปี 2560 อยู่ที่ 2.68 หมื่นล้านบาท +5%YoY(มีแนวโน้มปรับประมาณการเพิ่ม) โดยได้รับผลบวกจากธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นทั้ง Px และ BZ 19% และ 23% YTDตามลำดับ และธุรกิจโอเลฟินส์ที่ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE LDPE และ LLDPE ปรับตัวตัวขึ้น 5% 4% และ 13% YTD ตามลำดับ และมี Upside จากการซื้อธุรกิจปิโตรเคมีจาก PTT คาดใช้เงินราว 2.6 หมื่นล้านบาทซื้อบริษัทสายพลาสติกจาก PTT 6 บริษัท (จะเริ่มรับโอนบริษัทช่วง ต.ค.60) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรได้ราวปีละ 2.4 พันล้านบาท(ยังไม่ได้รวมในประมาณการ) พร้อมกันนี้เตรียมนำบริษัท GGC เข้าจดทะเบียนในตลาดปีนี้
  • AJD (ไอร่า) เป้า 3.17 บาท จำนวนตู้เติมเงินเติบโตเท่าตัว คาดส่งผลดีต่อรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเติมเงิน และดอกเบี้ยจากการขายผ่อนตู้เติมเงินและได้รับประโยชน์จากการแจกคูปองดิจิตอลรอบใหม่ของ กสทช. คาดกำไรสุทธิ ปี 60 เพิ่มขึ้น 34%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ