ASIMAR คาดกำไรปีนี้เพิ่มจากปีก่อน ตามรายได้โตราว 22%-มาร์จิ้นดีขึ้นจากงานซ่อมเรือฟื้น,รุกประมูลงานต่อเรือ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 5, 2017 14:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.37 ล้านบาทในปีก่อน ซึ่งนับเป็นการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากกำไรหดตัวลงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเมินรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 22% มาที่ 750 ล้านบาท จากการรับรู้ปริมาณงานในมือ (Backlog) ซึ่งเป็นงานต่อเรือราว 260 ล้านบาท

และบริษัทยังเตรียมเข้าประมูลงานต่อเรือใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง หากได้งานเข้ามาก็คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้เพิ่มเติม รวมถึงงานซ่อมเรือเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเรือ Offshore ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเริ่มเข้ามามากขึ้นหลังทิศทางราคาน้ำมันดีขึ้น

ตลอดจนเตรียมยื่นประมูลงานโครงสร้างเหล็กหลังคาสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ มูลค่าราว 100 ล้านบาทในช่วงเดือนพ.ค.นี้ เพื่อกระจายฐานรายได้ให้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากงานซ่อมเรือและต่อเรือ ขณะที่การเปิดอู่เรือแห่งใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี จะช่วยรองรับงานซ่อมเรือและต่อเรือในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้น

"เราคาดหวังว่าปีนี้กำไรจะโตขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และ net profit margin ปีนี้ก็น่าจะทำได้ดีกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 8%...ปีนี้เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นของลูกค้าในกลุ่มเรือสนับสนุนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเรือ Offshore ปีที่แล้วทั้งปีเราไม่มีงานซ่อมเรือ Offshore เลยจากปกติต้องมีงานเข้ามาประมาณ 7-8 ลำต่อปี ปีนี้เริ่มเข้ามาแล้ว 2 ลำ และกำลังจะเข้ามาอีก 1 ลำ เราก็คาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 4-5 ลำในปีนี้"นายสุรเดช กล่าว

อนึ่ง ในปี 59 ASIMAR ทำกำไรสุทธิ 48.37 ล้านบาท ลดลง 46.36% จากปีก่อนหน้า ตามรายได้ที่ลดลงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้า และมีการแข่งขันสูงขึ้นระหว่างอู่เรือ

นายสุรเดช กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการ 1/60 คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงกับระดับ 112.49 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะทยอยรับรู้ Backlog งานต่อเรือเดิมที่มีอยู่มาช่วยสนับสนุน ขณะที่เริ่มมีงานซ่อมเรือเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มเรือ Offshore ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงราว 25-30% เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นระดับกว่า 20% เท่านั้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กลุ่มลูกค้ามีงานขุดเจาะน้ำมันเพิ่ม และหันมาซ่อมบำรุงเรือมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าเรือ Offshore คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15% ของธุรกิจซ่อมเรือ โดยมีกลุ่มเรือขนส่งน้ำมันเป็นลูกค้าหลักราวราว 70-80% และกลุ่มลูกค้าเรือขนส่งสินค้า ราว 5%

ปัจจุบัน ASIMAR มีอู่เรือ 2 แห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรับซ่อมและต่อเรือขนาดกลางถึงเล็ก โดยมีรายได้หลักจากการต่อเรือและซ่อมเรือในสัดส่วน 50:50 ขึ้นอยู่กับปริมาณงานที่เข้ามา แต่ในปี 59 มีงานต่อเรือเข้ามาน้อยจากภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันสูง ทำให้สัดส่วนรายได้การต่อเรืออยู่ที่ราว 33% และซ่อมเรือราว 50% ส่วนที่เหลือเป็นอื่น ๆ

สำหรับตลาดของธุรกิจต่อเรือในปีนี้ยังค่อนข้างเงียบต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่บริษัทได้งานต่อเรือขนาดใหญ่เพียง 1 ลำเท่านั้น นอกนั้นเป็นเรือขนาดเล็กอีกหลายโครงการ โดยคงเหลือ Backlog ในมือ 260 ล้านบาทที่จะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ ขณะที่ยังมีศักยภาพงานต่อเรือของภาคเอกชนและรัฐบาลที่เตรียมจะเปิดในปีนี้คิดเป็นมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท แต่คาดว่าทั้งหมดจะเริ่มเห็นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

นอกจากนั้น บริษัทมองโอกาสรับงานต่อเรือเฟอร์รี่ของภาคเอกชน มูลค่าราว 240 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเปิดประมูลและรู้ผลได้ในช่วงไตรมาส 3/60 หากได้งานก็น่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 50-70 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า ส่วนงานต่อเรือของภาครัฐบาล คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงปลายปี อาจจะเป็นเรือขนาดไม่ใหญ่มากนัก และการแข่งขันก็มีมากขึ้น หลังผู้ประกอบการรายใหญ่หันมารุกตลาดในระดับเดียวกับบริษัท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น แต่ด้วยปริมาณเรือในตลาดที่ยังมีอยู่มาก ทำให้การฟื้นตัวของการต่อเรือใหม่จะเกิดขึ้นได้ช้ากว่างานซ่อมเรือ โดยมองว่าอุตสาหกรรมต่อเรือจะเริ่มเห็นความคึกคักได้บ้างในช่วงปี 61 เป็นอย่างเร็ว

สำหรับอู่เรือใหม่ใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่บริษัทได้เปิดดำเนินการเมื่อปลายปีที่แล้ว เริ่มทยอยรับเรือในโซนพื้นที่ภาคใต้เข้ามาซ่อมอย่างต่อเนื่องและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทคาดว่าจะเปิดอู่เรือใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพ.ค.นี้ และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในอีก 7 ปี แต่หากมีปริมาณเรือเข้ามาใช้บริการทั้งในส่วนงานซ่อมและงานต่อเรือจำนวนมาก ก็จะช่วยผลักดันผลประกอบการในปีนี้ด้วย และอาจจะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้นด้วย

"ตลาดต่อเรือยังเงียบอยู่ แต่งานซ่อมเริ่มมีเรื่อย ๆ เพราะเรือรับส่งสินค้าต้องซ่อมตามกำหนดระยะเวลา แต่มูลค่าการซ่อมจะมากหรือน้อยขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจของลูกค้า ถ้าช่วงไหนมีเงินเยอะก็จะซ่อมเยอะหน่อย แต่ช่วงไหนไม่มีเงินก็จะซ่อมเพื่อให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน"นายสุรเดช กล่าว

นายสุรเดช กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนจะขยายธุรกิจด้านงานโครงสร้างเหล็กด้วย เพื่อขยายฐานรายได้จากธุรกิจหลักที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนักและยังมีการแข่งขันสูง ขณะเดียวกันก็จะได้ประโยชน์จากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญงานโครงสร้างเหล็กอยู่แล้วได้อย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยมีผลงานจากงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิเฟสแรก และมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลงานจากผู้รับเหมาช่วง เพื่อทำงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิในเฟสที่ 2 ที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการในเร็ววันนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นบริษัทได้เข้าไปสนับสนุนงานโครงสร้างเหล็กแก่ผู้รับเหมาช่วงในโครงการมอเตอร์เวย์ ซึ่งมีมูลค่าไม่มากราว 10 ล้านบาท แต่ก็จะเป็นโอกาสในการรับงานระยะต่อไป ขณะที่ในเดือนพ.ค.นี้ก็เตรียมที่จะยื่นเสนองานต่อผู้รับเหมาช่วงสำหรับงานโครงสร้างเหล็กหลังคาสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ มูลค่าราว 100 ล้านบาทด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ