โบรกฯเชียร์"ซื้อ"SAPPE มองกำไรปีนี้โตต่อเนื่องรับยอดขายตปท.สดใส,ออกสินค้าใหม่-อัดโปรฯหนุนตลาดในปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 5, 2017 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) หลังคาดการณ์กำไรปี 60 จะมีอัตราเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ตามแนวโน้มยอดขายต่างประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี โดยคาดว่ารายได้จากการส่งออกในจีนเติบโต 20-30% กลับมาอยู่ในระดับเดียวกับที่เคยทำได้สูงสุดในปี 57 หลังจากได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายและตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น

ด้านยอดขายในอินโดนีเซียคาดเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการทำการตลาดของตัวแทนจำหน่าย และปีนี้ไม่ต้องรับรู้ขาดทุนจากธุรกิจที่อินโดนีเซียอีกต่อไป หลังได้ขายหุ้นในบริษัทย่อยที่อินโดนีเซียให้กับพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการและการทำตลาด

ส่วนยอดขายในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ในปีนี้ รวมถึงการทำการตลาดด้วยการจัดโปรโมชั่น นอกจกานั้นยังคาดว่ายอดขายจะเริ่มปรับตัวขึ้นรับช่วงหน้าร้อนที่เป็นไฮซีซั่น ช่วยหนุนผลการดำเนินงาน

หุ้น SAPPE ช่วงบ่ายอยู่ที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.98%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.05%

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                     ซื้อ                         34.50
          ทิสโก้                       ซื้อ                         34.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                ซื้อ                         39.00
          ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)        ซื้อ                         36.00
          เคจีไอ (ประเทศไทย)          ถือ                         32.00

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 60 ของ SAPPE ที่ 460 ล้านบาท หรือเติบโต 24% จากปีก่อน โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในระดับ 43% ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปรับประมาณการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sales) ลงเล็กน้อย เพราะคาดว่า SAPPE ไม่ต้องรับค่าใช้จ่ายการตลาดในอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/60 จะชะลอตัวตามภาวะการบริโภคในประเทศ และสถานการณ์น้ำท่วมในอินโดนีเซีย แต่คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในไตรมาส 2/60 จากปัจจัยฤดูกาลหน้าร้อนช่วยหนุน ประกอบกับ การการออกสินค้าใหม่ 7 รายการ และการกลับมาของตลาดอินโดนีเซียหลังน้ำท่วม โดยกำไรที่โดดเด่นในไตรมาส 2/60 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น SAPPE อีกทั้งการทำตลาดของผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปจากมะพร้าวภายใต้ยี่ห้อสินค้า ALL COCO เพื่อขายแฟรนไชส์ ในต่างประเทศยังคงเป็น Upside ในระยะยาวที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

"เราประมาณการกำไรปีนี้จะเติบโตได้ถึง 24% จากปีก่อน โดยในช่วงที่ผ่านมายอดขายก็มีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยยอดขายจะเริ่มปรับตัวขึ้นรับหน้าร้อน high season ที่กำลังจะเข้ามาถึงนี้"นายวิกิจ กล่าว

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยยังแนะนำ"ซื้อ"หุ้น SAPPE จากแนวโน้มส่งออกเริ่มฟื้นตัวทั้งจีนและอินโดนีเซีย ตลอดจนเริ่มขยายตลาดส่งออกน้ำมะพร้าว คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า ช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปีในช่วง ปี 60-62 โดยผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น 10% มาจากในประเทศและการส่งออก โดยคาดการส่งออกในจีนเติบโต 20-30% สามารถกลับมาเท่ากับปี 57 ได้ หลังจากได้เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ด้วยการเพิ่มตัวแทนขาย โดยปัจจุบันยอดขายจีนเริ่มฟื้นกลับมาสู่ภาวะปกติ ด้านอินโดนีเซียคาดเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการทำการตลาดของตัวแทนจำหน่าย ส่วนยอดขายในประเทศคาดเพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าและรสชาติใหม่ๆ รวมถึงการทำการตลาดจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ

สำหรับบริษัทร่วมทุนภายใต้บริษัท โคโคนัท แฟคทอรี่ จำกัด (CCF) ที่ถือหุ้น 40% ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากมะพร้าวภายใต้ยี่ห้อสินค้า ALL COCO นั้น SAPPE มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศจากการเปิดร้านมะพร้าวน้ำหอม All COCO เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ หลังจากได้รับความสนใจจากการออกงาน exhibitions ในไบ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยในปีนี้จะเริ่มเปิด 1 สาขา ปัจจุบัน SAPPE มีการขายแฟรนไชส์ที่ต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เกาหลี จีน

ด้านบทวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่าได้ปรับลดประมาณการกำไรของ SAPPE ในปีนี้ลงเล็กน้อย หลังในไตรมาส 4/59 รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก ALL COCO ที่ 3 ล้านบาท มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงปรับเพิ่มส่วนแบ่งขาดทุนในปีนี้เป็น 11 ล้านบาท และปรับลดกำไรปกติปีนี้ลงเล็กน้อย 1.7% เป็น 473 ล้านบาท แต่ยังเติบโต 25.5% จากปีก่อน รวมถึงปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 39 บาท จากเดิม 40 บาท แต่ยังมี Upside อีกมากทำให้ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ"สำหรับ SAPPE

ทั้งนี้ กำไรปกติที่เติบโตในปีนี้จะมาจากการที่ไม่ต้องรับรู้ขาดทุนจากธุรกิจที่อินโดนีเซียอีกต่อไป ขณะที่ตลาดในจีนฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีหลังจากจัดตั้งบริษัทย่อยแล้วเสร็จ และมี Distributor เพิ่มขึ้นหลายรายเข้ามาช่วยกระจายสินค้า โดยคาดว่าปีนี้รายได้ส่งออกไปจีนจะกลับมาเท่ากับที่เคยทำได้สูงสุดในปี 57 นอกจากนี้ตลาดในประเทศมีแนวโน้มการฟื้นตัว โดยมีแผนออกสินค้าใหม่อย่างน้อย 5 รายการในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ