ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 0.14 จุด ขาดปัจจัยหนุน รอผลเฟด-เลือกตั้งฝรั่งเศส,คาดบ่ายแกว่งไซด์เวย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 2, 2017 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,566.18 จุด ลดลง 0.14 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 17,964.76 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวทรงตัวขาดปัจจัยหนุนใหม่ ระหว่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 สัปดาห์นี้ รวมถึงติดตามการทยอยประกาศงบไตรมาส 1/60 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยด้วย ทำให้ขาดแรงซื้อหลัก แต่ยังมีแรงเก็งหุ้นรายตัวช่วยประคองภาพรวมและน่าจะทำให้ตลาดแกว่งกรอบแคบต่อไปในภาคบ่าย มองแนวรับที่ 1,560 จุด และแนวต้านที่ 1,570 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,566.18 จุด ลดลง 0.14 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 17,964.76 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,568.98 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,563.91 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยหนุน หลังนักลงทุนยังรอดูผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นในวันอังคารและวันพุธของสัปดาห์นี้ แต่เบื้องต้นคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ แต่อาจจะปรับขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.และธ.ค.

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.ด้วยเช่นกัน แม้ผลการสำรวจล่าสุดนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจที่มีแนวคิดสายกลาง ยังคงมีคะแนนนิยมนำหน้านางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคที่ชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ของบจ.ไทยด้วย หลังจากหลายบริษัทประกาศออกมาแล้วส่วนใหญ่ดีกว่าคาด แต่ตลาดยังไม่มีความมั่นใจมากนัก โดยหากบจ.ที่เหลือส่วนใหญ่ยังมีผลประกอบการดีกว่าคาดก็อาจจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น และอาจมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ 7% ซึ่งจะทำให้ Valuation ของตลาดเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ด้วยคาดการณ์อัตราเติบโตของกำไร บจ.ปีนี้ที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก และ Valuation ของตลาดที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาค ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไม่ได้ไหลเข้ามามากนัก ขณะที่ตลาดยังรอติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีด้วย

นายกิติชาญ คาดว่าแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่ายดัชนีน่าจะยังเคลื่อนไหวกรอบแคบต่อไปเพื่อรอดูปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนเด่นชัด และการซื้อขายยังกระจุกอยู่ในหุ้นรายตัวที่มีกระแสข่าว โดยมองแนวรับช่วงบ่ายบริเวณ 1,560 และแนวต้านที่ 1,570 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

          GGC        มูลค่าการซื้อขาย 2,090.37 ล้านบาท ปิดที่  12.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 952.65 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

          SCC        มูลค่าการซื้อขาย   688.61 ล้านบาท ปิดที่ 532.00 บาท ลดลง  4.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 663.31 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

          AOT        มูลค่าการซื้อขาย   616.35 ล้านบาท ปิดที่  40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ