KBANK คาด Q2/60 สินเชื่อ SME โตทรงตัวจาก Q1/60 มั่นใจครึ่งปีหลังเร่งตัวดันทั้งปีโต 4-6%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 8, 2017 13:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารในไตรมาส 2/60 จะทรงตัวจากไตรมาส 1/60 ที่เติบโต 1% เนื่องจากธนาคารไม่ได้เร่งและกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีให้กับลูกค้า เพราะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอียังเผชิญปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

"ธนาคารมองว่าหากธนาคารกระตุ้นและเร่งการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีมากเกินไป จะมีความเสี่ยงในแง่ของการที่ลูกค้าจะนำเงินไปใช้ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม"นายพัชร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีในครึ่งปีหลังจะเห็นการขยายตัวที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะจากการเบิกใช้วงเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งธนาคารมองว่าในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว การบริหารสภาพคล่องของธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องมีการดูแลและการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆให้มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ธุรกิจไม่มีภาระต้นทุนมากเกินไป

"ตอนนี้มองว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกรายจะต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงาน และการขอสินเชื่อกับแบงก์ก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะมาขอกู้ ต้องดูว่าอะไรเหมาะสมและอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะตอนนี้ธนาคารก็ไม่เร่งและไม่กระตุ้นการให้สินเชื่อกับลูกค้ามาก เพราะถ้าเร่งให้มากลูกค้าก็อาจจะนำเงินสินเชื่อที่ได้ไปใช้ไม่เหมาะสม"นายพัชระ กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารยังมั่นใจสินเชื่อ SME ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 4-6%

ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าเอสเอ็มอียังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง โดยปีนี้ธนาคารจะพยายามควบคุม NPL ของสินเชื่อเอสเอ็มอีให้อยู่ในระดับไม่เกิน 5% โดยไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา NPL ของสินเชื่อเอสเอ็มอีกอยู่ที่ 5% โดย NPL ของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่เกิดขึ้นมาจากการกู้เพื่อขยายกิจการและลงทุนซื้อสินค้าเพื่อเก็บสต็อกไว้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้ราคาสินค้าในสต็อกตกต่ำลงและมีสต๊อคคงค้างเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไม่สามารถขายของในราคาต้นทุนได้ โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวเป๊นกลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก และกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง

นายพชร กล่าวว่า ธนาคารยังมีความเป็นห่วงกลุ่มลูกค้าลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีการกู้เงินในช่วง 5-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ถือว่ามีสายป่านสั้น ทำให้เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะไม่สามาถปรับตัวได้ทันเมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่สายป่านยาวกว่า ทั้งนี้ ธนาคารมองว่าโอกาสที่ธุรกิจเอสเอ็มอีจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนจะอยู่ในช่วงที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) สามารถกลับมาขยายตัวได้มากกว่า 5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ