TAPAC-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 12.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 54.39 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 13.80 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 14.70 บาท และราคาลงต่ำสุด 12.40 บาท
ขณะที่หุ้น TAPAC ปิดที่ 19.30 บาท ลดลง 1.30 บาท (-6.31%) มูลค่าซื้อขาย 37.52 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 20.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 20.70 บาท และราคาลงต่ำสุด 19.30 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ทาพาโก้ (TAPAC) ใช้ชื่อย่อว่า TAPAC-W3 จะมี All-in Premium ที่ -9% เนื่องจากสถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ Deep In-The Money 236% จากราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่าหุ้นแม่ในกระดานมาก ทำให้รวมผลของ Dilution ไว้ในมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อเทียบความน่าสนใจเทียบกับหุ้นแม่ มองว่า TAPAC-W3 มีความน่าสนใจในการเก็งกำไรมากกว่าจาก Gearing ที่ 1.63 เท่าและผลตอบแทนของเงินปันผลหุ้นแม่ที่ต่ำ
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 20.60 บาท (8 พ.ค.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ TAPAC-W3 12.72 บาท คิดเป็น All-in Premium -9% พร้อมให้กรอบการแกว่งของ TAPAC-W3 ไว้ที่ 12.31-13.11 บาท เมื่อราคาหุ้น TAPAC เคลื่อนไหวในกรอบ 20.10-21.10 บาท โดยมี Volatility 67% per year
TAPAC-W3 จำนวนที่ออก 128.04 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2.7:1 (ขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 27 มี.ค.2560) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 6.00 บาท, อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน ม.ค., เม.ย., ก.ค. และ ต.ค. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 31 ก.ค. 2560 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายวันที่ 3 เม.ย. 2562)
TAPAC ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastic Parts) เป็นชิ้นส่วนพลาสติกที่ผลิตโดยใช้พลาสติกเกรดพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในด้านความแข็ง การทนความร้อน การทนการสึกกร่อน ไม่ติดไฟง่าย และมีการหล่อลื่นในตัวเองสูง ทำให้มีการนำพลาสติกประเภทดังกล่าวมาใช้แทนโลหะในการผลิตสินค้าหลายๆประเภทที่ต้องการความคงทนสูง เช่นเครื่องใช้ทั่วไปตามบ้านและสำนักงาน, ชิ้นส่วนยานยนต์ และมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สวีเดน