(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ลุ้นรีบาวด์เทคนิค จับตาสภาพัฒน์แถลง GDP ไตรมาส 1/60

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 15, 2017 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิคหลังจากดัชนีปรับตัวลงไป 5 วันทำการติดต่อกัน อีกทั้งค่าเงินบาทและราคาน้ำมันเริ่มแกว่งตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ต้องติดตามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจแห่งชาติ (GDP) งวดไตรมาส 1/60 ของไทยในวันนี้ ตลาดฯ คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/59 โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์อัตราเติบโตที่ระดับ 3.2% นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการทบทวนหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบนี้คาดว่าจะมีหุ้นไทยเข้าคำนวณด้วย อาจจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อยเฉลี่ย 0.2-0.4% โดยให้เกาะติดการตอบสนองของชาติมหาอำนาจหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/60 ในช่วงสุดท้าย

โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,540-1,535 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,550 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 พ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,896.61 จุด ลดลง 22.81 จุด (-0.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,121.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด (+0.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,390.90 จุด ลดลง 3.54 จุด (-0.15%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 130.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 76.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.47 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 พ.ค.60) 1,543.94 จุด ลดลง 6.33 จุด (-0.41%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 677.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 พ.ค.60) ปิดที่ 47.84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.02%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 พ.ค.60) ที่ 6.27 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.62 แข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ทำกำไร ตลาดผิดหวังตัวเลขศก.สหรัฐฯ
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำไตรมาส 1/60 ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าจะสามารถขยายตัวสูงกว่าไตรมาส 4/59 ที่อยู่ที่ 3% ซึ่งนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช. ได้ระบุว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่าไตรมาส 4/59 เช่นเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์เช่นเดียวกันว่าจีดีพีจะเติบโตมากกว่า 3%
  • นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมตั้งงบประมาณอีกกว่าแสนล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากต่อเนื่องจากปีนี้ โดยบรรจุลงในงบประมาณประจำปี 2561 ผ่าน 6 กลุ่มจังหวัด ซึ่งในส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับนโยบายการดำเนินงานภายในองค์กรเพื่อให้สอดรับกับภารกิจและงบประมาณ
  • คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.มีนโยบายจะไม่ต่อสัญญาจ้างบริษัทภายนอก(Outsource) ให้ดำเนินธุรกิจหลักขององค์กรเพราะที่ผ่านมาคู่สัญญาหลายรายทำงานแล้วมีปัญหาส่งผลกระทบต่อ ทอท. เช่น ปัญหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) หยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรง ปัญหาการขับรถสะพานเทียบไปชนเครื่องบินเสียหาย หรือปัญหากระเป๋าเดินทางชำรุดหรือสูญหาย
  • บริษัทจดทะเบียนกลุ่มค้าปลีกรายงานกำไรไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรรวม 10,199 ล้านบาท เติบโต 14.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทที่กำไรเติบโตสูงสุด 29.3% คือ บริษัท สยามแม็คโคร อันดับสอง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ 20.7% อันดับสาม บริษัท ซีพี ออลล์ เติบโต 17.2% อันดับสี่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (บิ๊กซี) เติบโต 4.3% บริษัทโรบินสัน โต 3.4% และ บริษัท สยามโกลบอล กำไรลดลง 2.8%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • THE-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เดอะ สตีล (THE)) เทรดวันนี้วันแรก จำนวน 2,199,960,720 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 4 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 20 เม.ย. 2560 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 17 เม.ย. 2563 (เนื่องจากวันที่ 19 เม.ย. 2563 เป็นวันอาทิตย์) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ต.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 เม.ย. 2563
  • ANAN (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 5.70 บาท อัตราการเติบโตของรายได้และกำไรโดดเด่น ยอด Backlog รวมสูงถึง 4.25 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตแซงหน้ากลุ่ม โดย ANAN วางแผนการตลาดเชิงรุกต่อจากนี้ โดย Q2/60 จะเปิดตัวโครงการสูงสุดที่ 2.27 หมื่นล้านบาท จากแนวราบ 2 โครงการเป็นทาวน์โฮม Segment ใหม่แบรนด์ UnioTown และ 5 คอนโด (ภายใต้การร่วมทุน) ที่รวมการเปิดโครงการ Ashton Asoke-Rama 9 แบรนด์ระดับ High End และคาดว่ายอด Presales จะสูงสุดใน 3Q60 (ANAN วางเป้าหมายที่ 1.0 หมื่นล้านบาท)
  • ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 76 บาท กำไรปกติใกล้เคียงคาด -8% Q-Q ตามฤดูกาลและ +4% Y-Y แม้รายได้จะไม่สดใสนักจากเหตุ SSSG ติดลบ 4.4% Y-Y แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังทำได้ดี จากการปรับ Product Mix เพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand และ International Brand ได้ตามเป้า กำไรมีแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q60 ซึ่งเป็น High season
  • HANA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 46 บาท กำไรสุทธิ 1Q60 โดดเด่น +28.6% Q-Q, +69% Y-Y แต่มาจาก Forex gain ก้อนใหญ่ หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติเท่ากับ 627 ล้านบาท -18% Q-Q, +63.7% Y-Y ถือเป็นกำไรที่ดี แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2Q60 และน่าจะทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q60 เพราะเป็น High Season ของธุรกิจ โดยมีแนวโน้มปรับประมาณการและราคาพื้นฐานขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ