SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,570.86 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 16,926.53 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวตามภูมิภาค ได้แรงเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กรายตัวตามกระแสข่าวหนุน คาดส่วนหนึ่งมีแรงซื้อกลับของสถาบันในประเทศและเม็ดเงินไหลเข้าบ้างส่วนแต่ไม่โดดเด่น อาจเป็นการปรับพอร์ตลงทุนตามการทบทวนดัชนี MSCI และคาดการณ์หุ้นเข้า-ออกจาก SET50 และ SET100 รอบใหม่ คาดดัชนีช่วงบ่ายยังซึมต่อ ให้แนวต้าน 1,574 จุด แนวรับ 1,560 และ 1,558 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,570.86 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 16,926.53 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,570.89 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,566.75 จุด
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีภาคเช้ามีลักษณะซึมตัวขึ้นมาตามตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้นในกรอบ 0.2-0.5% โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีข่าวเชิงบวกเข้ามาสนับสนุน ขณะที่หุ้นใหญ่มีลักษณะของการประคองตัว
ทั้งนี้ ตลาดฯ น่าจะได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อกลับของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่อาจจะมีการปรับพอร์ตรองรับสำหรับหุ้นที่จะถูกเข้าคำนวณ หรือถูกตัดออกจากการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 รอบใหม่ รวมถึงยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาแม้จะไม่โดดเด่นมากนัก แต่อาจเป็นปรับพอร์ตตามการทบทวนของดัชนี MSCI รอบนี้ ดัชนี MSCI Global Standard ไม่มีการปรับหุ้นเข้า-ออก แต่เพิ่มน้ำหนักหุ้น PTT, PTTGC, BEM และดัชนี MSCI Global Small Cap ก็มีการเพิ่มหุ้นบางตัวเข้ามาด้วย
สำหรับปัจจัยทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯยังคงเป็นไปตามคาด โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิม ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะปรับขึ้นเพิ่มขึ้น หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ ซึ่งกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังมีลักษณะของการซึมขึ้น โดยมองแนวต้านที่ระดับ 1,574 จุด และแนวรับที่ระดับ 1,560 และ 1,558 จุด ขณะที่ยังต้องติดตามการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปกที่จะหารือเรื่องการขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันในวันนี้ และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์หน้าด้วย
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SUPER มูลค่าการซื้อขาย 826.95 ล้านบาท ปิดที่ 1.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 670.81 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 602.27 ล้านบาท ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
GGC มูลค่าการซื้อขาย 580.89 ล้านบาท ปิดที่ 14.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 577.11 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง