ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,566.81 จุด ลดลง 3.47 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 23,411.10 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,571.70 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,564.53 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดพอร์ตในการถือครองหุ้นในช่วงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักลงทุนให้ความระมัดระวัง จึงมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดันดัชนีในช่วงเช้านี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงเช้าวันนี้ตลาดจะรับรู้และคลายกังวลจากการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คงอัตราดอกเบี้ยและยังคงวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคการเคลื่อนไหวในช่วงเช้าที่ผ่านมีบางประเทศที่ปรับตัวลดลงและบางประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นคละกัน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายธีรวุฒิ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสถูกแรงกดดันจากการปรับพอร์ตของนักลงทุน เพื่อรอความชัดเจนของการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติของตลาดที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง โดยการทยอยขายออกมาบางส่วน เพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยที่มีความสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุนอีกครั้ง
พร้อมให้แนวต้าน 1,573 จุด แนวรับ 1,565 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,437.74 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,431.10 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
EARTH มูลค่าการซื้อขาย 1,213.88 ล้านบาท ปิดที่ 1.30 บาท ลดลง 0.15 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,015.39 ล้านบาท ปิดที่ 382.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KTB มูลค่าการซื้อขาย 878.38 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท ลดลง 0.40 บาท