บลจ.กสิกรไทย ย้ำเป้า SET ปีนี้ 1,650 จุด เชื่อมั่นศก.ไทยยังไปต่อจากภาคส่งออกฟื้น-ลงทุนรัฐหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 11, 2017 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปลายปีอยู่ที่ระดับ 1,650 จุด และเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นไทยจะยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในปีนี้ เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออก รวมทั้งการลงทุนและการเบิกจ่ายงบประมาณที่คาดว่าจะมีการเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังขยายตัวใกล้เคียงกับที่คาดไว้

ทั้งนี้ ประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2560 ไว้ที่ประมาณ 3.3-3.4% ขณะที่ตัวเลขการส่งออกคาดการณ์เติบโต 3.5%

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศ ที่อาจมีผลกระทบต่อการลงทุน ทั้งในด้านนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมไปถึงปัจจัยด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาค และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นไทย ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคง และเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการลงทุนของภาครัฐในครึ่งปีหลัง รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางสาวธิดาศิริ กล่าวอีกว่า บลจ.กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นไทยจำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) ในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค สตราทิจิค แอคทีฟ หุ้นทุนปันผล (K-STADE) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2560 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 170.3 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุน K-EQUITY ใช้กลยุทธ์เน้นมุมมองภาพการลงทุนในระยะกลางถึงยาว และเป็นหุ้นของบริษัทที่ยังมีความสามารถในการสร้างผลกำไรที่ดีแม้ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่มีความผันผวน จึงทำให้กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้เป็นที่น่าพอใจ ส่วนกองทุน K-STADE ใช้กลยุทธ์เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราการจ่ายปันผลสูง และมีการกระจายลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเน้นการจับจังหวะการซื้อขายเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กองทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ