NOK คาดปี 61 พลิกกำไรจากปี 60 คาดยังขาดทุนแต่ลดลงจากปีก่อน, เพิ่มประสิทธิภาพใช้เครื่องบิน-เส้นทางตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 17, 2017 08:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและการขาย บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) คาดปี 61 จะพลิกกลับมามีกำไร จากปี 60 ที่คาดว่าจะเผชิญการขาดทุนต่อเนื่อง แต่จะขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 2,795 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะนำเครื่องบินที่มีอยู่นำไปบินในเส้นทางต่างประเทศมากขึ้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ (Utilization) เป็น 11 ชั่วโมง/ลำ/วัน จากปัจจุบัน 7-8 ชั่วโมง/ลำ/วัน

ขณะเดียวกันได้เปิดเส้นทางบินใหม่ไปจีนมากขึ้น ซึ่ง NOK เลือกจุดบินไปจีนเพราะเป็นประเทศที่มีประชากรมากและมีกำลังซื้อ โดยปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนเส้นทางไปต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% จาก 5% ในปีก่อน และมีแผนจะเพิ่มอีกเป็นกว่า 30%, 40% และ เป็น 50% ในปี 61 , 62, 63 ตามลำดับ ส่วนรายได้จะมีสัดส่วนจากเส้นทางต่างประเทศเป็น 60-70% และรายได้จากเส้นทางในประเทศก็ลดลงไปเหลือ 30-40%ในปี 62

ดังนั้น การเปิดจุดบินใหม่ไปจีนจะช่วยเพิ่มรายได้เข้ามาซึ่งราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมา ขณะเดียวกันก็่ช่วยลดต้นทุน เพราะเครื่องบินได้นำออกมาใช้งานได้มากขึ้นโดยบินในช่วงกลางคืนไปจีน จากปัจจุบัน ส่วนใหญ่ประมาณ 95% ของจำนวนเครื่องบินจะนำไปใช้ในเส้นทางในประเทศที่ทำการบินประมาณ 1 ชม.ซึ่งไม่คุ้มค่า เพราะเครื่องบินที่บริษัทมีส่วนใหญ่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ที่ที่นั่ง 187 ที่นั่ง และสามารถบินได้ 3-4 ชม.

"95%ของไฟลท์ที่ทำการบิน 1 ชม.ทำให้ประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินไม่ลงตัว เราเริ่มบินไปต่างประเทศซึ่งได้เริ่มเมื่อปีที่แล้ว สัดส่วน 5% ปีนี้ก็บินเพิ่มเป็น 20% จนถึงปี 63 จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 50% ...วันนี้เราเอาเครื่องบิน JET ไปบินต่างประเทศ ในประเทศใช้เครื่องใบพัดแทน"นายปิ่นยศ อธิบาย

NOK มีเส้นทางบินในประเทศ 24 เมือง ส่วนต่างประเทศมี 3 จุดบิน ได้แก่ ย่างกุ้ง โฮจิมินห์ และฮานอย

ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและการขาย NOK กล่าวว่า ในไตรมาส 2/60 ได้ทำการบินไปจุดบินในเมืองจีนมากขึ้น โดยปัจจุบันได้บินไปเส้นทางภูเก็ต-เฉิงตู, ภูเก็ต-หนานหนิง, เชียงใหม่-หนานหนิง, ดอนเมือง-หนานหนิง, ดอนเมือง-หนานทง ทำการบิน 4-7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ โดยใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 โดยเริ่มต้นขายเหมาให้กับเอเย่นต์จีน 2-3 ราย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี รวมทั้งบินไปแบบเช่าเหมาลำ ดอนเมือง-Baotau ทำการบินระยะสั้น

ในเดือนส.ค.นี้จะเปิดทำการบิน ดอนเมือง - เจิ้งโจว, ดอนเมือง - Wu-uxi, ภูเก็ต-คุนหมิง ทำการบิน 4-7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และในไตรมาส 4/60 จะทำการบินจากภูเก็ต-เจิ้งโจว , เชียงใหม่-เจิ้งโจว โดยในเดือนส.ค.นี้ NOK จะเริ่มขอแบ่งจากเอเย่นต์จีนมาขายตั๋วเอง ราว 5-10% ของที่นั่งทั้งหมด โดยคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/60 จะดีขึ้นจากไตรมาส 2/59 ทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้ต่อหน่วย (yield) ในไตรมาส 2/60 ดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ราว 4-5% โดยเฉพาะในเดือนมิ.ย.yield ขึ้นมาก เพราะราคาตั๋วปรับขึ้นมา 15% โดยราคาตั๋วเฉลี่ยในช่วง 6 เดือนอยู่ที่ 1,300-1,400 บาท/เที่ยว และคาดทั้งปีมีราคาตั๋วเฉลี่ย 1,300-1,400 บาท/เที่ยว เพิ่มจากปีก่อนเฉลี่ยที่ 1,200 บาท/เที่ยว นอกจากนี้ บริษัทจะจัดแคมเปญจัดกิจกรรม(event) กระตุ้นการเดินทางให้มากขึ้น

นายปิ่นยศ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 60 จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นราว 5% จากปีก่อนมีอยู่ 1.69 หมื่นล้านบาท และอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ 83%จากปีก่อนอยู่ที่ 85.07% จำนวนผู้โดยสารปีนี้คาดไว้ที่ 8 ใกล้เคียงปีก่อนที่มี 8.5 ล้านคน โดยคาดว่าสัดส่วนผู้โดยสารจีนประมาณ 5% แต่ปีนี้ย้งขาดทุนอยู่แต่ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนหนักมากที่ 2.79 พันล้านบาท โดยมาจากต้นทุนหลักได้แก่ ต้นทุนน้ำมัน ต้นทุนซ่อมบำรุงอากาศยาน และ ต้นทุนค่าเช่าซึ่งเครื่องบินของ NOK เช่าทั้งหมด

ในปี 61 จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 4 ลำ และปลดระวางไป 2 ลำ จากปีนี้มีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 21 ลำ เครื่อง ATR 72-500 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบิน Q400 NextGen 8 ลำ รวมเป็น 31 ลำ และปีหน้าจะมีทั้งหมด 33 ลำ ทำให้ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK)เพิ่มขึ้นประมาณ 5-8% โดย NOK จะเปิดจุดบินใหม่ไปจีนมากขึ้น บางเส้นทางก็จะอาจจะเพิ่มความถี่ ลดความถี่การบินในเส้นทางในประเทศเพื่อไปบินเส้นทางจีนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้ศึกษาเส้นทางบินต่างประเทศนอกเหนือจากจีนที่ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง อาทิ เมืองโอกินาวา ที่ญี่ปุ่น

"การที่บินเข้าจีน ทำให้เรา Turnaround ได้เพราะได้ใช้เครื่องบิน 11 ชั่วโมง/ลำ/วัน และราคาขายในประเทศก็ไม่ลงไปแข่งขันราคา จะเพิ่ม Value ให้ผู้โดยสาร คาดว่าปีหน้าจะเริ่มมีกำไร" นายปิ่นยศ กล่าว

ปัจจุบัน ส่วนแบ่งการตลาดสายการบินโลว์คอสต์ทั้ง 3 รายเฉลี่ยใกล้กันที่ระดับ 30% ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ทั้งนี้นโยบายของบริษัทได้วาง position ของ NOK เป็น Premium LowCost Airline

นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนนักบินไม่มีแล้วหลังเกิดเหตุการณ์เมื่อต้นปี 59 และรู้ว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ NOK ซึ่งจะมีการวางกลยุทธ์ใหม่กันอีก อย่างไรก็ดี ความร่วมมือด้านการบิน THAI Group ก็ยังมีอยู่กับสายการบินไทย (THAI) และสายการบินไทยสมายล์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ