(เพิ่มเติม) RICHY คาดสรุปร่วมทุนพันธมิตร 1 รายพัฒนาโครงการภายใน 2 เดือนนี้, มั่นใจยอดขาย-รายได้ปีนี้ตามเป้า เน้นระบายสต็อกสินค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 19, 2017 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ไทย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งมีความสนใจที่จะร่วมกันพัฒนาโครงการร่วมกับบริษัท โดยเป็นรูปแบบของการร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนของการร่วมทุนกับพันธมิตร 1 ราย ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมองว่าการร่วมทุนกับพันธมิตรในการพัฒนาเป็นโอกาสที่น่าสนใจในด้านความสามารถในการพัฒนาและในด้านของเงินทุนที่สามารถใช้ร่วมกันเพื่อการลงทุนได้ อีกทั้งในแง่ของการขายยังมีลูกค้าจากทางด้านพันธมิตรมารองรับ

ด้านยอดขายในปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ 1.8 พันล้านบาท แม้ในครึ่งปีแรกทำยอดขายได้ 800 ล้านบาท ขณะที่มองภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไนช่วงครึ่งปีหลังยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ดี และมีระยะเวลาการขายที่น้อยกว่าปกติในปีนี้จากปัจจัยในประเทศช่วงเดือนต.ค.นี้ เป็นปัจจัยกดดัน แต่อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินงานของบริษัทจะเน้นการระบายสต็อกออกแทน เพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท

โดยปัจจุบัน บริษัทมีสต็อกของโครงการที่เหลือรอขาย รวมมูลค่าราว 9 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 12 โครงการ จำนวน 1,300 ยูนิต มูลค่า 7-8 พันล้านบาท และโครงการแนวราบ 3 โครงการ จำนวน 70 ยูนิต มูลค่า 1.2-1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการจัดแคมเปญสงเสริมการขายในช่วงวันที่ 5-6 ส.ค.นี้ โดยการให้โปรโมชั่นเฟอร์นิเจอร์ 99 รายการกับลูกค้าที่จองซื้อที่สำนักงานขาย โดยคาดหวังรายได้จากแคมเปญดังกล่าว 100 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 568.24 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีการโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาราว 600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการโอนในครึ่งปีหลังราว 400 ล้านบาท จาก Backlog ปัจจุบันที่ 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของบริษัทที่จะรับรู้รายได้ในนี้ 1 พันล้านบาท "แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ยังเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก รวมถึงครึ่งปีนี้ จากการโอนที่เพิ่มมากขึ้น"นางอาภา กล่าว ส่วนงบซื้อที่ดินปีนี้ตั้งไว้ 1.6 พันล้านบาท ปัจจุบันได้ไช้ไปหมดแล้ว แต่ยังมีความสนใจซื้อที่ดินเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมทั้งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/60 จำนวน 540 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี โดยขายให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับดี โดยเป็นการออกหุ้นกู้ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุในเดือนส.ค.นี้

นางอาภา กล่าวอีกว่า ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า อาจจะสามารถเปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่บนทำเลย่านเอกมัย ซอย 8 ที่บริษัทเพิ่งได้วางเงินมัดจำเพื่อซื้อที่ดินเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยจะนำที่ดินดังกล่าวจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาท/ตารางเมตร หรือมีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 7-8 ล้านบาท /ยูนิต เจาะกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่พักอาศัยในย่านเอกมัยเป็นจำนวนมาก โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างปี 62 และคาดว่าแล้วเสร็จพร้อมโอนในช่วงปี 64

ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 61 เบื้องต้น ได้วางแผนการเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,000-10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 2-3 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ จากปีนี้ที่บริษัทเปิดโครงการครบตามแผนงานแล้วในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมีที่ดินในมือที่อยุ่ระหว่างรอการพัฒนาจำนวน 4 แปลง ใน 4 ทำเล คือ ที่ดินย่านศรีนครินทร์ ที่ดินย่านราชพฤกษ์ ที่ดินย่านสุขุมวิท ซอยลาซาล และที่ดินย่านเอกมัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ