นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังเดินหน้าต่อแบบ Sideway up รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เป็นบวกต่อเนื่องตามที่คาดไว้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 47.89 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นผลมาจากผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียที่มีผลสรุปออกมาที่เป็นบวก ประเทศไนจีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการยกเว้นการปรับลดการผลิตก็จะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิตด้วย
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะทราบผลเช้าวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) ตามเวลาในประเทศไทย เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอดู ขณะเดียวกันตลาดยังมองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0% แต่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณลดขนาดงบดุล ด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ออกมาเป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาดในเดือนมิ.ย.
ส่วนปัจจัยในประเทศ จะมีเรื่องของการเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 2/60 ขณะที่ราคาน้ำมันกลับมาเป็นบวกต่อตลาด และบางส่วนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ราคาลงมามาก วันนี้ถ้าดัชนีผ่าน 1,584 ขึ้นไปได้ โอกาสเห็นระดับ 1,590 จุด ก็มีค่อนข้างมาก แม้วันนี้ ตลาดต่างประเทศจะคึกคักน้อยลง เพราะบางส่วนจะรอดูผลประชุมเฟดคืนนี้ (26 ก.ค.) อีกทั้งเรื่องของกฎหมายสุขภาพของสหรัฐฯที่ยังไม่ลงตัว
ดังนั้น ตลาดสั้น ๆ ยังเป็นบวก แต่ความไม่แน่นอนจากผลประชุม FOMC ที่จะออกมาได้ทั้งบวกและลบต่อตลาด การเข้าลงทุนจึงความเน้นหุ้นที่มีความปลอดภัยหรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2 หุ้น Defensive หรือหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เพราะใกล้ถึงช่วงของการจ่ายเงินปันผลกลางปี โดยแนะนำให้เริ่มขายทำกำไรช่วงสั้น ถ้าดัชนีเกิน 1,584 ขึ้นไป เพราะเชื่อว่ารอบนี้ จะยังไม่ผ่าน 1,590 จุด
สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BBL, WICE, MTLS, CK, JWD, VNT, SIS หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค ได้แก่ CBG, TFG, APURE