KSL เล็งยื่นขายไฟฟ้า SPP Hybrid Firm รวมราว 40-45 MW จากกำลังผลิตเหลือใช้ใน รง.น้ำตาล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 3, 2017 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาหลักเกณฑ์การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก แบบ SPP Hybrid Firm ที่รัฐบาลเตรียมจะเปิดรับซื้อจำนวน 300 เมกะวัตต์ เบื้องต้นจะนำกำลังการผลิตไฟฟ้าเหลือใช้ในโรงงานน้ำตาล เสนอขายไฟฟ้าตามโครงการดังกล่าว รวม 40-45 เมกะวัตต์ (MW) จากโรงไฟฟ้าใน จ.ขอนแก่น และจ.เลย

"เราอยากจะขาย 20-30 เมกะวัตต์ในแต่ละที่ เราคงจะยื่น 2 โรงที่วังสะพุง กับขอนแก่น ส่วนบ่อพลอยก็ขายอยู่แล้ว 25 เมกะวัตต์คงจะไม่ยื่นเสนอขายไฟฟ้า...แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขอีกที เพราะเป็นการขายแบบ Firm ซึ่ง minimum ไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ภายในกี่วันต่อเดือน หรือกี่เดือนต่อปี condition เยอะเหลือเกิน เราก็ต้องพยายามทำให้ได้ตามนั้น"นายชลัช กล่าว

นายชลัช กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าอยู่ 3 แห่งตามที่ตั้งของโรงงานน้ำตาล ส่วนใหญ่ประมาณ 60-70% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าจะใช้ในโรงงานน้ำตาล โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าคงเหลือขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในลักษณะสัญญา Non-Firm ขณะที่มีเพียงโรงไฟฟ้าในจ.ขอนแก่น ที่ขายไฟฟ้าให้ กฟภ.เป็นสัญญา Firm จำนวน 20 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตทั้งหมด 80 เมกะวัตต์

ส่วนโรงไฟฟ้าใน อ.บ่อพลอย จ.กาญจบุรี มีกำลังการผลิต 70 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าสัญญา Non-Firm ราว 25 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าในอ.วังสะพุง จ.เลย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเป็นราว 70 เมกะวัตต์ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 40 เมกะวัตต์นั้น ยังไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเสนอขายไฟฟ้าในรูปแบบ SPP Hybrid Firm จากโรงไฟฟ้าใน จ.ขอนแก่น จำนวน 20 เมกะวัตต์ เนื่องจากยังมีกำลังการผลิตเหลือใช้และเหลือจากการที่ขายในระบบ Firm อยู่แล้วในปัจจุบัน และจะเสนอขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใน จ.เลย จำนวน 20-25 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดหวังอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง 3.40-3.50 บาท/หน่วย ก็จะสามารถสร้างรายได้โรงละ 600-700 ล้านบาท/ปี หากบริษัทได้รับการคัดเลือกก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมมากนัก เพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่มีอยู่แล้ว มีเพียงการลงทุนสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าในหลักสิบล้านบาทเท่านั้น

อนึ่ง รัฐบาลคาดว่าจะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ในปริมาณ 300 เมกะวัตต์ในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ หลังล่าสุดคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารายภูมิภาคตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ ภาคกลาง 20 เมกะวัตต์, กรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 เมกะวัตต์, ภาคตะวันออก 20 เมกะวัตต์, ภาคใต้ 100 เมกะวัตต์, ภาคตะวันตก 20 เมกะวัตต์, ภาคเหนือ 65 เมกะวัตต์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60 เมกะวัตต์

เบื้องต้นการรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบนั้นจะต้องเป็น SPP ขนาดมากกว่า 10 เมกะวัตต์ แต่ไม่เกิน 50 เมกะวัตต์ โดยสามารถใช้เชื้อเพลิงได้มากกว่าหรือเท่ากับ 1 ประเภท ไม่กำหนดสัดส่วน และใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ร่วมได้ โดยต้องเป็นสัญญาประเภท Firm กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เท่านั้น มีอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่ระดับ 3.66 บาท/หน่วย เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 64


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ