นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินแนวโน้มหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (15-18 ส.ค.) น่าจะมีการรีบาวด์กลับมาในวันแรกของสัปดาห์แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัดที่ระดับ 1,550-1,575 จุด แต่โดยรวมดัชนีฯ ยังมีความเสี่ยงขาลง เป็นผลจากนักลงทุนคลายความวิตกสถานการณ์เกาหลีเหนือ และจะส่งผลดีหรือแย่ลงไปตามสถานการณ์รายวัน ขณะที่แต่การรายงานกำไรไตรมาส 2 ของหุ้นไทยที่มีสัญญาณชะลอตัว สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสาน-เหนือ ที่ยังสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางการเกษตร 2 ปัจจัยนี้ จะกดดันต่อดัชนีฯในช่วงต่อๆไป
ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์เกาหลีเหนือนั้น สหรัฐฯ-จีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ไม่ได้แสดงความวิตกต่อแผนการโจมตีของเกาหลี โดยมีการเตรียมการไว้บ้าง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่ายังไม่ถึงจุดที่จะใช้กำลังทหาร สหรัฐฯต้องการใช้แนวทางทางการฑูตเพื่อแก้ปัญหานี้ในเรื่องนี้ก่อน ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ (14) หลายแห่งตอบรับกับโอกาสที่จะเกิดสงครามที่ดูจะน้อยลง จึงค่อนข้างโชคดีที่ตลาดหุ้นไทย น่าจะบวกตามไปด้วย
ดังนั้นจะเป็นผลบวกกับหุ้นที่มีแรงขายมากจากสัปดาห์ก่อน เช่น กลุ่มธุรกิจการบิน กลุ่มโรงแรม กลุ่มเดินเรือ ขณะที่หุ้นหรือสินทรัพย์ที่ถูกซื้อด้วยความเป็น safe haven asset หรือมีความปลอดภัยสูง อาทิ ทองคำ หรือพันธบัตร จะเป็นลบ
ด้านราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลนั้น ประเมินว่ามีทั้งประเด็นบวกและลบในอนาคต ประเด็นลบคือภาวะ oversupply ของน้ำมันดิบยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตามการที่ทางกลุ่มออกมายืนยันแผนการควบคุมการผลิตน้ำมันให้เป็นไปตามที่ตกลงกัน จะลดความกังวลไประดับหนึ่ง
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน เนื่องจากตลาดยังไม่มีความนิ่งมากนัก ความเสี่ยงจากกำไรบริษัทในตลาดที่ชะลอตัว จะทำให้ตลาดขาดความน่าสนใจไป KTBST แนะนำให้ชะลอการลงทุนหรือลงทุนเพียงกรอบเวลาสั้นๆเท่านั้น โดยช่วงต้นสัปดาห์ แนะให้เก็งกำไรหุ้น จากสถานการณ์เกาหลีเหนือที่คลายตัวลง และเก็งกำไรช่วงสั้นๆต่อหุ้นงบดี แต่ควรเลี่ยงหุ้นที่กำไรลดลงมากหรือลดมากกว่าคาด หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ได้แก่ SIRI, IVL, EGCO, CPF, TASCO, LH , BDMS , AAV และหุ้นแนะนำเชิงเทคนิคได้แก่ KCE, UTP