SUPER มั่นใจ H2/60 โตแข็งแกร่งหลัง Q3/60 รับรู้โซลาร์ฟาร์มจีน 30MW-ตั้งกองทุนฯทันปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 15, 2017 11:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 60 คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะในไตรมาส 3/60 บริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีนกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ รวมถึงรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศเข้ามาสนับสนุน

ขณะที่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) ที่จะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และขายปลายปีนี้ก็จะช่วยสนับสนุนเม็ดเงินให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/60 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,430.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 616.72 ล้านบาท หรือ 76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 813.69 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 435.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 413.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,925% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 21.49 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้รวม 2,908 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,781ล้านบาท หรือ 158.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,126.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 848.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 771.26 ล้านบาท หรือ 997.74% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 77.30 ล้านบาท

เนื่องจากบริษัทฯได้รับปัจจัยบวกจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และการขายไฟที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศ โดย SUPER ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) กำลังการผลิต 735 เมกะวัตต์แล้ว จากใบอนุญาตขายไฟฟ้า 809 เมกะวัตต์

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมติให้ บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการเข้าซื้อหุ้น ของบริษัท เอส ทู พี เอนเนอร์ยี จำกัด หรือ (S2P) จาก นายกิตติศักดิ์ ลภัสนิธิโรจน์ จำนวน 2,499,000 หุ้นราคาหุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 249,900,000 บาท ขณะเดียวกันได้เข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัท มีเดียมาร์ค หรือ ( MM ) จำนวน 628,000 หุ้นในราคา 62,800,000 บาท เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มการรับรู้รายได้และกำไรให้กับบริษัทและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

"บริษัท SSE ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SUPER ก่อนหน้านั้นถือหุ้น S2P ในสัดส่วน 49% แต่หลังจากเข้าซื้อหุ้นจาก นายกิตติศักดิ์ ลภันิธิโรจน์ ในสัดส่วน 51% ทำให้ SSE กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งปัจจุบันกำลังการผลิต S2P อยู่ที่ 36 เมกะวัตต์ ขณะที่ MM กำลังการผลิตอยู่ที่ 24 เมกะวัตต์"นายจอมทรัพย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ