(เพิ่มเติม) "ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ"จับกระแส Fintech เปิดตัวงานที่ปรึกษาระดมทุนรูปแบบ ICO ในตปท.ผ่านสกุลเงินดิจิตอล

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 29, 2017 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.แอพเพิลเวลท์ ในฐานะนักธุรกิจอิสระ เปิดตัวธุรกิจที่ปรึกษาด้านเงินดิจิตอล โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำด้านเทคโนโลยีการเงิน Blockchain แก่หลายบริษัททั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่าง Wi Holding Company Limited (ซึ่งเป็น Partner ของ NX ผู้นำเทคโนโลยีใน NASDAQ) กับ China Kingdom Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจระดับแนวหน้าในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยลูกค้าทั้งสองรายจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินดิจิตอลและบล็อกเชน (Blockchain) ให้กับธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กในมาเก๊า ซึ่งมีธุรกรรมการเงินหมุนเวียนต่อวันกว่า 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อมีการวางรูปแบบพร้อมระบบของเงินดิจิตอลและบล็อกเชนเรียบร้อย จากนั้นจะเดินหน้าระดมทุนในรูปแบบการออกเสนอขายหน่วยเงินดิจิทัลให้กับประชาชนทั่วไป หรือ initial coin offerings (ICO ) ในช่วงราว 5 เดือนข้างหน้า ในตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มทำการโรดโชว์นำเสนอข้อมูลในประเทศต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 5 ประเทศ ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.60 นี้ มูลค่าการระดมทุนเบื้องต้นคือ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือหากเทียบเป็นสกุลเงินบาทของไทยก็ประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเทรดได้ในวันที่ 11 พ.ย.นี้

นายประสิทธิ์ เปิดเผยอีกว่า ในปลายปีนี้จะมีอีก 3 บริษัททำ ICO โดยบริษัทแรกมีธุรกิจเกมออนไลน์ บริษัทที่สองดำเนินธุรกิจโอนเงิน และ บริษัทที่สามทำธุรกิจซื้อขายทองคำ คาดว่าจะเริ่มเทรดได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาสนี้

"ICO ก็เหมือนกับ IPO แต่ใช้เวลาเร็วกว่า และเปิดให้ทุกคนใช้สิทธิเท่ากันในการเข้าซื้อ แต่มีความเสี่ยงสูง จึงต้องศึกษาข้อมูล ปัจจัยพื้นฐานให้ดี" นายประสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ความแตกต่างระหว่างการระดมทุนในรูปแบบ IPO กับ ICO ได้แก่ 1) การกำกับดูแล IPO จะมีรูปแบบและกฎหนาแน่น แต่ ICO ไม่มีกรอบชัดเจนในการเขียนหนังสือชี้ขวน 2)ด้านประวัติและความน่าเชื่อถือ IPO จะมีข้อมูล, หาข้อมูลย้อนหลังได้,ตกแต่งบัญชีได้ ขณะที่ ICO ไม่ได้มีแบบแผนชัดเจน และหาข้อมูลย้อนหลังไม่ได้

3)ด้านการใช้สอย หุ้น IPO มีความเป็นเจ้าของ มีการแบ่งระดับหุ้น มีเรื่องสิทธิในการออกเสียง และมีปันผล แต่ ICO ราคามีความสัมพันธ์กับรายได้ในอนาคตโดยตรงไปตรงมากกว่า ปริมาณการใช้มีความสัมพันธ์กับราคา และคนใช้เยอะราคาดี 4) ระยะเวลาการออกหุ้น IPO ใช้เวลานานในการออกหุ้น และผ่านขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วน ICO ใช้เวลาไม่นาน

5) สิทธิในการซื้อ หุ้น IPO จัดสรรให้รายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นสถาบัน แต่ ICO ทุกคนมีสิทธิซื้อเท่ากัน และ 6)ด้านความเสี่ยง ของหุ้น IPO เสี่ยงน้อย มีกฎหมายรองรับ และมีแนวทางเติบโตเห็นได้ชัด ต่างจาก ICO มีความเสี่ยงสูง ไม่มีกฎหมายรองรับ และไม่ได้รับรองจากหน่วยงานใด

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ICO ที่ตนเองเป็นที่ปรึกษาจะคำนวณปัจจัยพื้นฐานให้เพื่อดูโอกาสทางธุรกิจ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีการจ้างบริษัทประกันมารับประกันในการทำธุรกิจ , จ้าง Third Party ที่เป็น IT Audit ชั้นนำซึ่งจะป้องกันแฮกเกอร์ได้ และจ้างผู้สอบบัญชีชั้นนำ นอกจากนี้ ภายในสิ้นปีนี้ตนเองจะร่วมมือกับพันธมิตรยุโรป เปิดบริษัทโบรกเกอร์เพื่อซื้อขายหุ้นผ่านระบบ Exchange ของตลาด Coin


แท็ก นักธุรกิจ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ