(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up เล็งขานรับ"ทรัมป์"ย้ำนโยบายปรับลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 31, 2017 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากในช่วงเช้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้กล่าวย้ำถึงการผลักดันนโยบายปฏิรูปภาษีนิติบุคคล คือการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 15% จากระดับ 35% ในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ประจำไตรมาส 2/2560 ของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ระบุเศรษฐกิจขยายตัว 3.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7%

ส่วนตลาดบ้านเราก็ได้มีการปรับฐานไปเมื่อวานนี้แล้ว และนักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิอยู่ เพียงแต่ในระหว่างทางอาจเผชิญแรงขายทำกำไรอยู่บ้าง นอกจากนี้ FTSE ได้นำ EA และ WORK เข้าคำนวณในดัชนีฯฟุตซี่ ดังนั้นอาจทำให้มีแรงซื้อเข้ามา

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,892.43 จุด เพิ่มขึ้น 27.06 จุด (+0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,368.31 จุด เพิ่มขึ้น 66.42 จุด (+1.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,457.59 จุด เพิ่มขึ้น 11.29 จุด (+0.46%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 84.78 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 160.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.25 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23.30 จุด

ด้านตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ส.ค.60) 1,613.34 จุด ลดลง 0.80 จุด (-0.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 675.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ส.ค.60) ปิดที่ 45.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 48 เซนต์ หรือ 1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ส.ค.60) ที่ 10.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.19 แนวโน้มอ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนดอลล์แข็ง
  • สินค้าอุปโภคบริโภค "ไม่ฟื้น" ครึ่งปีแรกโต 1% ทำสถิติต่ำสุดรอบ 11 ปี จากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พบพฤติกรรมลดมูลค่า-ความถี่ซื้อสินค้า ตัดค่าใช้จ่ายทุกผลิตภัณฑ์
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยในงานไทยแลนด์ โฟกัส ว่า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) จัดทำข้อมูลว่า 15 ปีนี้เอเชียต้องใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 862 ล้านล้านบาท เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.นี้ คลังจะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2560 เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิม 3.6% เนื่องจากมีหลายปัจจัยดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยเฉพาะการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์คาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ถึง 6% สูงกว่าที่กระทรวงการคลังประมาณการไว้ที่ 4.6% และภาคเอกชนเริ่มมีสัญญาณการลงทุนดีขึ้น เห็นได้จากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.8% รวมถึงงบประมาณกลางปี 1.9 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้แล้ว 46% เร็วกว่าที่คิด
  • ก.ล.ต.มีการปฏิรูปกฎเกณฑ์ที่ใช้ในตลาดทุนให้มีความสอดคล้องกับสภาวะตลาด เพื่อให้กฎเกณฑ์หรือเครื่องมือกำกับดูแลที่มีอยู่มีประสิทธิภาพ ผู้มีส่วนร่วมในตลาดทุนนำไปปฏิบัติได้จริง และตอบโจทย์ได้ตรงจุดรวมทั้งไม่เป็นภาระมากจนเกินไป โดยในการปฏิรูปนั้นจะคำนึงถึงส่วนประกอบสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ สภาพการแข่งขันของธุรกิจและผู้ลงทุนต้องมีทางเลือก ความเชื่อมั่นในกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย และให้ความสำคัญเกี่ยวข้องในตลาดทุนโดยวัดผลการกำกับดูแลจากลูกค้าหรือผู้ลงทุน
  • "สมคิด" เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์พีพีพี 5 ปี รวม 55 โครงการ มูลค่าลงทุน 1.62 ล้านล้านบาท เปิดทางเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ อนุมัติหลักเกณฑ์เปรียบเทียบต้นทุน ความเสี่ยง และความคุ้มค่าในการประเมินทางเลือกการลงทุน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AP (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 9.70 บาท จาก 1) การร่วมลงทุนกับ partner หนุน presale เติบโตแข็งแกร่ง 2) ส่วนแบ่งรายได้จาก JV เพิ่ม backlog การรับรู้รายได้ในอนาคต 3) อัตรากำไรสูงขึ้น รวมถึง ROE และ 4) ด้วยกำไรเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีช่วง 2560-2563 และ valuation ไม่แพงที่ PE18 7.2x และผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.9-4.9%
  • AIT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 31 บาท คาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะทะลุเป้าหมายที่ 5 พันล้านบาท โดย Backlog ล่าสุดอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ราว 70% ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้น 3Q60 คาดใกล้เคียงกับ 2Q60 ที่ 20.2% เนื่องจากยังต้องรับรู้รายได้โครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน ประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ที่คาด +23% Y-Y มี Downside เล็กน้อยจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำคาด แต่จะถูกชดเชยจากการกลับรายการหนี้สูญหากสามารถเจรจาเรียกเก็บเงินจากลูกค้าภาครัฐสำเร็จ อีกทั้ง Valuation ที่ถูก PE2560 เพียง 10.5 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงราว 7.7%
  • TOP (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งจากค่าการกลั่น (GRM )ไตรมาส 3 ที่ยืนเหนือ 8 เหรียญ/บาร์เรล นอกจากนี้ GRM ยังได้แรงหนุนจากการปิดซ่อมโรงกลั่นจำนวนมากในช่วง ส.ค.-ก.ย. และพายุเฮอร์ริเคนกระทบกับโรงกลั่นและกำลังการผลิตในสหรัฐฯ
  • AMATA (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานเข้าสู่ช่วงแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง ขณะที่กฎหมาย EEC เข้าพิจารณา ก.ย. และน่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี เป็นปัจจัยบวกด้านจิตวิทยา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ