โบรกฯเชียร์"ซื้อ" BTS รับผลดีจากขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่ 1 ต.ค.,ธุรกิจสื่อโฆษณา-อสังหาฯโตดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 1, 2017 14:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) มองธุรกิจหลักทั้งรถไฟฟ้า ,สื่อโฆษณา และอสังหาริมทรัพย์กลับมาเติบโตดี โดยเฉพาะธุรกิจรถไฟฟ้าได้รับผลดีจากการปรับขึ้นค่าโดยสารเส้นทางสัมปทานปัจจุบันสายสุขุมวิท และสายสีลม จำนวน 1-3 บาท/เที่ยว มีผล 1 ต.ค.นี้

นอกจากนี้ BTS ยังได้รับสัมปทานใหม่รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ในนามบริษัทร่วมทุน BSR (BTS ถือหุ้น 75%) ระยะทาง 64.9 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 53 สถานี อายุสัมปทาน 30 ปี คาดเปิดให้บริการในปี 63 จะทำให้เส้นทางเดินรถขยายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 34 กม.มี 34 สถานี เพิ่มเป็น 132 กม. มี 112 สถานี

ส่วนธุรกิจสื่อโฆษณาที่บริหารผ่านบมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย(VGI) , บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) และกลุ่ม RABBIT ที่กลับมาเติบโตได้ ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ijวมทุนกับ บมจ.แสนสิริ (SIRI) คาดว่าปีนี้จะเริ่มมีกำไรราว 200 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากโครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 77 และ โครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต

ราคาหุ้น BTS พักเที่ยงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 8.65 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.40%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ธนชาต                        ซื้อ                      12.00
          บัวหลวง                       ซื้อ                      11.70
          เคจีไอ (ประเทศไทย)            ซื้อ                      10.60
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                      10.20
          กสิกรไทย                      ซื้อ                       9.80
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ               ซื้อ                       9.38

นางสาวจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ปรับราคาเหมาะสมสำหรับหุ้น BTS จาก 9.50 บาท เป็น 10.20 บาท ขณะที่ BTS จะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าโดยสาร 1-3 บาท/เที่ยว จาก 15-42 บาท/เที่ยว เป็น 16-44 บาท/เที่ยว ในเส้นทางที่ได้รับสัญญาสัมปทาน คือ สายสุขุมวิท สถานีอ่อนนุช-หมอชิต และ สายสีลม สถานีสะพานตากสิน-สนามกีฬาแห่งชาติ มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้

นอกจากนี้ BTS ยังได้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ในนามบริษัทร่วมทุน BSR ระยะทาง 64.9 กม.จำนวน 53 สถานี อายุสัมปทาน 30 ปี คาดเปิดให้บริการในปี 63 ซึ่งเส้นทางที่รถไฟฟ้า 2 สายผ่านมีประชากรอาศัยหนาแน่น รวมทั้งได้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้านเหนือและใต้ จะทำให้เส้นทางเดินรถขยายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 34 กม.มี 34 สถานี เพิ่มเป็น 132 กม. มี 112 สถานี ทำให้โครงข่ายขยายมากขึ้นและมีนัยสำคัญต่อธุรกิจรถไฟฟ้า

สำหรับธุรกิจสื่อโฆษณา ในนาม VGI, MACO และการให้บริการดิจิทัลในกลุ่ม RABBIT ก็ยังเติบโตได้ดี ตามเส้นทางรถไฟฟ้าที่ขยายตัว ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ร่วมทุนกับ SIRI ในปีนี้คาดว่าจะรับรู้กำไรประมาณ 200 ล้านบาท หลังจะโอนโครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 77 และ เริ่มทยอยโอนโครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิตในเดือนต.ค.นี้

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิในงวดปี 60/61 ของ BTS จะเติบโต 32% เป็น 2.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจาก 3 ธุรกิจคือ ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นักวิเคราะห์จาก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ BTS จะปรับราคาค่าโดยสารของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กม. สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต-สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - สถานีสะพานตากสิน ไม่รวมส่วนต่อขยายของกรุงเทพมหานคร ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ที่เป็นผู้บริหารสัมปทานเดินรถในปัจจุบัน และรองลงมาคือ BTS ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น 33.3% ใน BTSGIF

อัตราการปรับขึ้นอยู่ในช่วง 3.5-10.5% หากคิดจากการปรับขึ้น 1-3 บาท/เที่ยว จากค่าเฉลี่ยโดยสารที่ 28.50 บาท/เที่ยว ช่วยทำให้เป้าหมายการจัดเก็บค่าโดยสารเฉลี่ยปีนี้ (fare Box) เพิ่ม 1% เป็นไปได้มากขึ้น แม้ระยะแรกต้องเผชิญกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง แต่จากสถิติที่ผ่านมาจะเป็นแค่เพียงระยะสั้น ระยะกลาง-ยาวผู้โดยสารก็จะกลับมาใช้บริการอย่างปกติก่อนปรับขึ้นราคา เพราะหลีกหนีปัญหาจราจร และมีความสะดวกสบายในเรื่องเวลาการให้บริการที่แน่นอนกว่ารถสาธารณะประเภทอื่น

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์สำหรับปีนี้จะยังไม่เต็มที่ เพราะเริ่ม ต.ค.60 ไม่เต็มปีในรอบการเงิน และบัตรแรบบิตกว่าจะปรับขึ้นราคาได้ต้องรอไปถึง 31 มี.ค.61 แต่จะเกิดประโยชน์เต็มปีในรอบปีหน้ามากกว่า

นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการปรับขึ้นราคาเหมาะสมของ BTS จากปัจจุบัน 9.80 บาท จากแนวโน้มธุรกิจของ BTS ที่จะเติบโตในอนาคต หลังจากได้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง อายุ 30 ปี นอกจากนี้ มีแนวโน้มจะได้ดำเนินส่วนต่อขยายสายสีชมพูที่วิ่งเข้าเมืองทองธานี และสายสีเหลือง ที่สร้างสถานีเชื่อมสถานีหมอชิตและสถานีรัชโยธิน ซึ่งทั้งสองเส้นทางนี้มีประชากรหนาแน่น รวมทั้งได้ปรับขึ้นค่าโดยสารเส้นทางเดิม ที่มีผล 1 ต.ค.นี้

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต แนะนำ"ซื้อ"หุ้น BTS เนื่องจากได้รับประโยชน์การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่จะมีผลใน 1 ต.ค.นี้ แต่ที่ผ่านมาการเติบโตไม่ได้มาก และเป็นหุ้นที่มี P/E สูง รวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่ได้สูงมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ