ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,659.05 จุด ลดลง 11.44 จุด (-0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 64,498.84 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,670.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,658.26 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 438 หลักทรัพย์ ลดลง 952 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 329 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง โดยหุ้นขนาดใหญ่ Underperform หุ้นขนาดเล็ก หลังจากเริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติปิดสัญญา Short position ในตลาดฟิวเจอร์ส ทำให้ SET50 ปรับตัวลงตามไปด้วย ดังนั้น ระยะสั้นคงต้องระวังการเก็งกำไร เนื่องจากวันนี้ดัชนีฯได้หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,665 จุดแล้วหลังจากที่ยืนมาได้ตลอดตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งดัชนีฯปรับตัวขึ้นแรง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ติดลบเป็นผลจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่มีการโต้ตอบกันไป-มา ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดบ้านเรา ส่วนตลาดยุโรปบ่ายนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งตัวอิงขาลง โดยมีแนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 ก.ย.คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% และสัญญาณจากตลาดฟิวเจอร์สนักลงทุนต่างชาติจะทยอยปิด Short Position ต่อเนื่องหรือไม่ รวมถึงจับตา Prop Trade จะหยุดซทื้อหรือขายออกเมื่อใด หลังจากที่ผ่านมาได้สะสมหุ้นไว้มากแล้ว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,624.01 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,111.39 ล้านบาท ปิดที่ 406.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,253.18 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,155.18 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,029.13 ล้านบาท ปิดที่ 6.10 บาท ลดลง 0.25 บาท